ก.ส.ล. พร้อมเพิ่มโบรกเกอร์ รองรับปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้นใน AFET

ข่าวทั่วไป Friday January 21, 2011 11:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ก.ส.ล. นายวันชัย ผโลทัยถเกิง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับ AFET มีแผนที่จะเพิ่มประเภทสินค้าที่จะเข้ามาซื้อขายในลำดับต่อไปอีกหลายชนิด เช่น ข้าวขาว FOB ซึ่งจะนำเข้าซื้อขายในอีกไม่ช้านี้ เป็นต้น ก.ส.ล. ในฐานะผู้กำกับดูแล และส่งเสริมพัฒนา AFET จึงมีแผนในการเพิ่มปริมาณนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า หรือโบรกเกอร์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการทางธุรกิจดังกล่าว ซึ่งผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า สามารถขออนุญาตเป็นนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าได้โดยตรงที่ ก.ส.ล. สำหรับหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ประเภทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ กรณีผู้ขออนุญาตเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว และกรณีผู้ขออนุญาตเป็นบริษัทจัดตั้งใหม่ ซึ่งหลักเกณฑ์เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า คือ ต้องเข้าเป็นสมาชิก AFET มีระบบงานและความพร้อมในการประกอบธุรกิจ และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ซึ่งเมื่อ ก.ส.ล. ได้รับคำขออนุญาตแล้ว จะมีการพิจารณาคำขออนุญาต และแจ้งผลการพิจารณากลับไปยังผู้ขออนุญาตภายใน 30 วัน นอกจากนี้ สำหรับผู้ซื้อผู้ขายที่มีความประสงค์จะทำการซื้อขายเพื่อตนเอง แต่มีการซื้อขายในปริมาณมาก และต้องการประหยัดต้นทุนในการซื้อขายกว่าการเป็นลูกค้าของนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ผู้ซื้อผู้ขายสามารถสมัครเป็นผู้ค้าล่วงหน้า (Trader) ได้ โดยสามารถยื่นขอรับใบอนุญาตกับ ก.ส.ล.และสมัครเป็นสมาชิก AFET ทั้งนี้การเป็นผู้ค้าล่วงหน้าจะมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย และมีมูลค่าการวางเงินประกันต่ำกว่าการเป็นลูกค้าของนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า เช่น ณ วันที่ 19 มกราคม 2554 ลูกค้าของนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ให้กับนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ประมาณ 450 บาท/ข้อตกลง วางเงินประกันขั้นต่ำ 18,000 บาท และเงินประกันขั้นต้น 24,000 บาท ในขณะที่หากเป็นผู้ค้าล่วงหน้าจะเสียค่าธรรมเนียมการซื้อขายล่วงหน้าในอัตราพิเศษ ประมาณ 65 บาท/ข้อตกลง เงินประกันขั้นต่ำ และเงินประกันขั้นต้นในมูลค่าเท่ากันที่ 18,000 บาทเท่านั้น การเป็นผู้ค้าล่วงหน้าใน AFET นอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนในการซื้อขายแล้ว ยังมีสิทธิในการส่งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ได้โดยตรงโดยไม่ผ่านนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าเมื่อสมัครเป็นสมาชิก AFET และสามารถขอมีฐานะการถือครองข้อตกลงเกินกว่าที่กำหนด ในกรณีที่ผู้ค้าล่วงหน้าเป็นผู้ประกันความเสี่ยง (Hedger) รวมทั้งได้รับสิทธิอื่นๆ ในฐานะเป็นสมาชิก AFET เช่น สิทธิในการเลือกตั้งคณะกรรมการ AFET เป็นต้น นายวันชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ในปี 2554 นี้ นายหน้าซื้อขายล่วงหน้า และผู้ค้าล่วงหน้า ใน AFET ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ส.ล. จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตด้วย โดยผู้ที่สนใจสมัครเป็นนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า หรือผู้ค้าล่วงหน้า สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ก.ส.ล. www.aftc.or.th หรือสอบถามข้อมูลที่ฝ่ายกำกับและพัฒนาธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ก.ส.ล. โทร. 0-2685-3250 ต่อ 603, 601, 619 ในวันและเวลาราชการ” สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ กรุณาติดต่อที่ศูนย์สารสนเทศและเสริมสร้างความรู้ โทร. 0-2685-3250 ต่อ 610 โทรสาร 0-2685-3259 หรือhttp://www.aftc.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ