กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--เวิรฟ
แอมเวย์ประเทศไทยครองแชมป์ขายตรงไทยด้วยยอดขาย 14,370 ล้านบาทในปี 2553 พร้อมเดินหน้ารุกด้วยกลยุทธ์ “มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า” ในปีนี้ จัดกิจกรรมการขายและการตลาดให้สอดรับกับกลุ่มนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และลูกค้า พร้อมทุ่มงบ 140 ล้านบาท เตรียมเปิดแอมเวย์ ช็อปอีก 10 แห่ง ตั้งเป้าเปิดครบทุกจังหวัดภายใน 5 ปี
นายกิจธวัช ฤทธีราวี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2553 แอมเวย์ประเทศไทยสร้างสถิติยอดขายสูงสุดอีกครั้งด้วยผลประกอบการ 14,370 ล้านบาท ครองแชมป์ขายตรงไทยอย่างยาวนาน โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างยอดขายได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์และเครื่องสำอางอาร์ทิสทรี รวมทั้งปีนี้เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์และเครื่องกรองน้ำอี-สปริง ก็มียอดเติบโตอย่างยิ่ง ทำให้สินค้ากลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม มีสัดส่วนรายได้รวมทั้งหมด 74% ของยอดธุรกิจทั้งหมด โดยความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือขององค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจ และการจัดแคมเปญการตลาดและการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างมาตรฐานจรรยาบรรณในธุรกิจขายตรงมาตลอด 24 ปีที่ดำเนินธุรกิจ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในปัจจุบัน”
“สำหรับปี 2554 บริษัทนำกลยุทธ์ “มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า” (Consumer Focus) มาใช้ โดยได้เตรียมแผนการตลาดและการขายที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เจาะกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น มีกิจกรรมสำหรับแต่ละกลุ่ม(Segmentation) ได้แก่ แคมเปญสำหรับนักธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งความจริงได้เริ่มไปแล้วตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ด้วยแผนส่งเสริมการขายพิเศษ เพื่อให้นักธุรกิจแอมเวย์มีโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น และแผน 3 ปี ‘ท่องโลกกว้างกับแอมเวย์’ กับ11 การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก แคมเปญทางการตลาด จัดกิจกรรมแยกตามกลุ่มเป้าหมาย พร้อมวางระบบข้อมูลในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น และแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และชื่นชอบในแบรนด์สินค้ามากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านสื่อโซเชียล เน็ทเวิร์คที่กำลังเป็นแนวโน้มสำคัญและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบประมาณด้านการขาย การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการพัฒนาระบบสารสนเทศไว้ที่ 950 ล้านบาท”
“แผนงานสำคัญปีนี้ บริษัทเตรียมรุกตลาดด้วยการสร้างแบรนด์ต่อสาธารณชนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทุ่มงบประมาณ 140 ล้านบาท เปิดแอมเวย์ ช็อป ใหม่อีก 10 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สมุย, พัทยา, สยาม ดิสคัฟเวอรี่, ฉะเชิงเทรา, อุตรดิตถ์, พะเยา, ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์, พัทลุง และสระบุรี โดยที่สาขาสยาม ดิสคัฟเวอรี่ เป็นสาขาแรกที่แอมเวย์นำแบรนด์เข้าสู่ห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง เพื่อสนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์ดำเนินธุรกิจและให้บริการสมาชิกได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าถึงผลิตภัณฑ์และโอกาสทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น อันเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเปิดแอมเวย์ ช็อป ครบทุกจังหวัดภายใน 5 ปี”
“บริษัทมั่นใจว่า อาชีพ “นักธุรกิจแอมเวย์” เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้และความมั่นคงให้ชีวิต พร้อมๆ กับมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดการฝึกอบรมเพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศกว่า 320,000 รหัสเป็นประจำทุกปี ขณะเดียวกันบริษัทได้สร้างความแข็งแกร่งของผู้ใช้สินค้าหรือสมาชิกแอมเวย์กว่า 700,000 ราย ด้วยการจัดโปรโมชั่นและการวิจัยแบบสนทนากลุ่ม (Focus Group) เพื่อทราบความต้องการที่แท้จริงและให้เกิดความภักดีในแบรนด์สินค้าอย่างยั่งยืน”
“นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์และอาร์ทิสทรี เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม ด้วยการจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมต่างๆ ผ่านทุกช่องทางทั้งทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ค แอมเวย์ ช็อป และงานแอมเวย์ เอ็กซ์โป เป็นต้น เพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้สินค้า (Penetration) และการซื้อซ้ำ (Reactivation) ให้มากขึ้น พร้อมทั้งรุกสร้างแบรนด์แอมเวย์ให้เป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึงและสามารถเข้าถึงแบรนด์และสินค้าแอมเวย์ได้ง่ายขึ้น” นายกิจธวัชกล่าวในที่สุด
ทางด้านนายวันชัย รุ่งภูวภัทร รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษานักธุรกิจแอมเวย์ประเทศไทย และนธอ.ระดับเพชรบริหาร กล่าวว่า “คณะกรรมการที่ปรึกษานักธุรกิจแอมเวย์ประเทศไทย (คปอ.) เป็นตัวแทนของนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศ โดยคปอ. ชุดนี้เป็นชุดที่ 8 มีนโยบายในเรื่องของ “การส่งเสริมภาพลักษณ์และการดำเนินธุรกิจภายใต้จรรยาบรรณนักธุรกิจแอมเวย์ การส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจและความไว้วางใจกันระหว่างนักธุรกิจแอมเวย์และทีมผู้บริหารแอมเวย์” เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสองหมื่นล้านบาทที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้”
“นักธุรกิจแอมเวย์ไทยยินดี และภาคภูมิใจกับยอดธุรกิจที่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นอย่างมาก โดยมีจำนวนเงินเกินกว่าสี่พันล้านบาทจากยอดธุรกิจที่ตอบแทนให้แก่บรรดานักธุรกิจแอมเวย์ ทำให้อาชีพนักธุรกิจแอมเวย์เป็นอาชีพที่ส่งเสริมให้ประชากรไทยได้มีรายได้อย่างมั่นคง ในขณะเดียวกัน นักธุรกิจแอมเวย์ยังมั่นใจได้ว่า แอมเวย์เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีธรรมมาภิบาลสูง และยังดูแลนักธุรกิจแอมเวย์ในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่ว่าท่านนั้นจะมีวุฒิการศึกษาอย่างไร มีประสบการณ์อะไรบ้าง หรือมีฐานะเช่นไร เป็นต้น รวมทั้งวัฒนธรรมองค์กรที่ถ่ายทอดกันมา ทำให้นักธุรกิจแอมเวย์ทำ “ธุรกิจอย่างมืออาชีพและมีจรรยาบรรณ” แอมเวย์จึงแข็งแกร่งและได้ครองความเป็นแชมป์อย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้” นายวันชัย กล่าว