กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--กทม.
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.ค.48 เวลา 13.00 น.) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ ตรวจการเตรียมความพร้อมในมาตรการรองรับเหตุฉุกเฉินหลังเกิดเหตุวินาศภัยในกรุงลอนดอน ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิต สถานีสยาม และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสมีมาตรการในการรองรับเหตุฉุกเฉินอยู่แล้ว แต่ในระหว่างนี้จะเพิ่มความเข้มงวดตรวจตราเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน ของร.ฟ.ม. จำนวน 3 สถานี คือที่สถานีหมอชิต สถานีอโศก และสถานีศาลาแดง รวมกับสถานีใกล้กับสถานทูตและสถานีที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมากอีก 3 สถานี คือ สถานีสีลม สถานีอนุสาวรีย์ และสถานีพร้อมพงษ์ ต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยกรุงเทพมหานครจะสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจตราบริเวณด้านล่างของสถานี ใต้ทางยกระดับ และรอบๆ ตอม่อ อีกทั้งยังทำการตัดแต่งกิ่งไม้ต้นไม้ ที่ใต้ทางยกระดับให้ง่ายต่อการตรวจตรา ซึ่งจะได้สั่งการให้สำนักงานเขต 9 เขตที่รถไฟฟ้าผ่าน ดำเนินการทันที นอกจากนั้นในช่วงเวลาที่ปิดการให้บริการก็จะมีเจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยของสถานี แต่กรุงเทพมหานครจะได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมตรวจตราด้วย
ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ยังกล่าวว่า นอกจากนั้นกรุงเทพมหานครยังจะประสานงานไปยังสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ที่รถไฟฟ้า วิ่งผ่าน ซึ่งมีทั้งหมด11 สน.ให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมดูแลความปลอดภัยอีกด้วย
เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสว่าจะได้รับความปลอดภัยจากการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม ทั้งนี้มาตรการรองรับทั่วไปของรถไฟฟ้าบีทีเอส คือ กำหนดให้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในกรณีฉุกเฉินงดการเดินทาง ไปต่างประเทศ ฝึกทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติการในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะเพื่อมีเหตุขู่วางระเบิด ฝึกทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติการต่างๆ และมาตรการบรรเทาเมื่อเกิดเหตุวินาศภัย ซึ่งบริเวณสถานีที่มีความเสี่ยงสูงจะดำเนินการตรวจตราบริเวณรอบสถานีในช่วงหยุดการให้บริการ ไม่มีการวางถังขยะบริเวณชานชาลา และกำหนดจุดที่ตั้งถังขยะให้อยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนบริเวณ ชั้นจำหน่ายตั๋ว และนำกระถางต้นไม้ทั้งหมดออกจากจุดที่ลับตา เพิ่มแสงสว่างบริเวณในและนอกสถานีในช่วงเวลาหลังปิดให้บริการ ปิดและล็อคประตูลิฟท์ทั้งหมด และเปิดใช้เมื่อมีการร้องขอเท่านั้น ตรวจตราขบวนรถไฟฟ้าทุกขบวนที่สถานีปลายทาง จัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทุกระดับในการรับโทรศัพท์และรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเมื่อเกิดเหตุขู่วางระเบิด และอบรมให้เข้าใจหากมีวัตถุต้องสงสัยหรือมีการขู่วางระเบิดและวินาศภัยต่างๆ
ส่วนบริเวณอาคารบีทีเอสและโรงจอดซ่อมบำรุง จัดให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตรารถยนต์ที่น่าสงสัยและจอดค้างคืน บริเวณลานจอดแล้วจร กำจัดต้นไม้บริเวณริมรั้วให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและง่ายต่อการตรวจตรา ไม่ให้จอดรถไฟฟ้าบริเวณรางที่ติดกับลานจอดแล้วจรเพื่อป้องกันหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
สามารถคลิกดูภาพข่าวได้ที่ www.thaipr.net--จบ--