กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--ธ.กสิกรไทย
เศรษฐกิจชะลอตัวไม่กระทบ ลูกค้าแห่ทำประกันผ่านกสิกรไทยมีผลให้ไตรมาสแรกเพิ่ม 145% ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 2 ตั้งเป้าปีนี้กวาดลูกค้าใหม่อีก 50,000 ราย มุ่งส่งเสริมลูกค้าเพิ่มการออมพร้อมประกัน ที่ให้ผลตอบแทนสูง
นายดลพาห์ เพ็ชร์พิรุณ ผู้บริหารงานบริหารผลิตภัณฑ์และการขายผลิตภัณฑ์การลงทุนและประกัน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันลูกค้าของธนาคารเกือบทุกกลุ่มให้ความสำคัญในการทำประกันเพื่อสร้างหลักประกันชีวิตมากขึ้น ทำให้ในไตรมาสแรกของปี 2550 เบี้ยประกันรับปีแรกที่ลูกค้าทำประกันผ่านธนาคารสูงถึง 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2549 และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจขายประกันผ่านธนาคารของธนาคารกสิกรไทยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 จากปีที่แล้วที่ธนาคารเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันให้กับลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบอยู่อันดับที่ 6
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าเบี้ยประกันรับปีแรกในปี 2550 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท จากลูกค้ารายใหม่ประมาณ 50,000 ราย ซึ่งคาดว่าน่าจะทำได้สูงกว่าเป้าหมาย จากปี 2549 ที่มีเบี้ยประกันรวม 1,780 ล้านบาท จำนวนลูกค้าประมาณ 37,000 ราย เนื่องจากธนาคารมีผลิตภัณฑ์ด้านคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินที่หลายหลายและครบถ้วนตามความต้องการของลูกค้า ทั้งการประกันชีวิตในรูปแบบสะสมทรัพย์ ประกันคุ้มครองภาระ หนี้สินของที่อยู่อาศัยและวงเงินบัตรเครดิต ประกันวินาศภัย ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยโจรกรรม ประกันอัคคีภัย และประกันชดเชยรายได้ นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงกระบวนการขายและการบริการให้มี มาตรฐานเดียวกันทุกสาขา เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
นายดลพาห์ กล่าวว่า ในปีที่แล้วลูกค้าส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญในการทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับในปีนี้ธนาคารจะเน้นให้ความสำคัญในการขายประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Pro Saving) ซึ่งเป็นการประกันชีวิตพร้อมการออมเงินที่จะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ทำประกันคุ้มค่า โดยสามารถเลือกการออมได้ 3 แบบ คือ ออม 6 ปี คุ้มครอง 10 ปี ออม 7 ปี คุ้มครอง 15 ปี และออม 8 ปี คุ้มครอง 20 ปี ซึ่งลูกค้าจะได้รับ ผลประโยชน์ตลอดระยะเวลาสัญญามีมูลค่าสูงสุดถึง 216% ของทุนประกัน อีกทั้งยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาทต่อปี