กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอเชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธ์ เพื่อลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ในช่วงเวลา 08.00-13.00 น. เนื่องจากในช่วงเช้าโอกาสที่จะมีฝนตกน้อยกว่าช่วงเวลาอื่นๆ พร้อมเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ควรเพิ่มความระมัดระวัง ในขณะนี้ขับขี่ เพราะบนถนนสายหลัก จะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น 2-3 เท่าตัว จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิ์ เพื่อลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ในวันอาทิตย์ที่19 สิงหาคม 2550 พร้อมแนะนำ ประชาชนควรเดินทางออกไปใช้สิทธ์ ในช่วงเวลา 08.00 -13.00 น. ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เนื่องจากในช่วงเช้าโอกาสที่จะมีฝนตก จะน้อยกว่าช่วงบ่ายถึงค่ำ ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพอากาศ ในวันอาทิตย์ที่19 สิงหาคม 2550 พบว่า ลักษณะทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย จะมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยบริเวณประเทศไทยในตอนเช้า มีเมฆบางส่วน สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ในระหว่างบ่ายถึงค่ำ จะมีเมฆเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกได้ในช่วงตอนเย็นและค่ำ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร เว้นแต่ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ดังนั้น ประชาชนควรออกไปใช้สิทธิ์เพื่อลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในช่วงเวลา 08.00-13.00 น. จึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
นายอนุชา ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 18 - 20 สิงหาคม 2550 มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้ประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บนถนนสายหลักมีปริมาณยานพาหนะเพิ่มขึ้นมาก 2-3 เท่าตัว ประกอบกับ ขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกบ่อยครั้ง อาจทำให้ถนนลื่น และทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้ง่าย และอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้เพิ่มความระมัดระวัง ในขณะขับขี่ให้มาก โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายวินัยจราจร และมาตรการ 3ม 2ข 1ร อย่างเคร่งครัด รวมทั้งห้ามดื่มสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถหรือก่อนเดินทางอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ภายในรถให้พร้อมการใช้งานอยู่เสมอ เช่น ที่ปัดน้ำฝน เบรก ไฟหน้า-ไฟท้าย น้ำมันเครื่อง แบตรี่ และหมั่นตรวจเช็คลมยาง สภาพหน้ายางให้พร้อมใช้งาน เพื่อช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ สุดท้ายนี้ประชาชนพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อได้ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ปภ.เขตและสำนักงาน ปภ.จังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบหรือสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป