กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--เวิรฟ
ขึ้นชื่อว่า “ขยะ” นับเป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงประสงค์ทั้งนั้น จากการประมาณการพบว่า ในปีหนึ่งๆ มนุษย์ผลิตขยะรวมทั่วโลกได้ถึง 1,000 ล้านตัน สามารถนำไปกองบนสนามฟุตบอลได้ถึง 400,000 สนามทีเดียว ลองมาดูที่ประเทศไทยกันบ้าง จากข้อมูลสถานการณ์ขยะในปี 2551 พบว่า ทั่วประเทศมีปริมาณขยะชุมชนถึง 15.03 ล้านตัน คิดเป็นอัตราการเกิดขยะเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 0.64 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ขยะที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องประมาณ 38% และโดยเฉลี่ยรวมทั้งปีมีการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์เพียง 23% เท่านั้นเอง
ปริมาณขยะมหาศาลเช่นนี้นำมาซึ่งผลเสียต่อระบบนิเวศน์และการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางอากาศจากการเผาขยะ มลภาวะทางน้ำจากการทิ้งขยะมูลฝอยลงแหล่งน้ำ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการกำจัดขยะที่ไม่ถูกวิธีและเป็นการทำลายสมดุลธรรมชาติอย่างรุนแรง ทั้งปัญหาโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อโรคเพาะตัวในแหล่งกองขยะ รวมถึงปัญหาระดับสากลอย่างภัยธรรมชาติต่างๆ และปัญหาโลกร้อน แม้ว่าทั่วโลกจะตื่นตัวต่อผลกระทบของวิกฤตการณ์โลกร้อนในวงกว้าง และหลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต่างให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับวิธีกอบกู้ภาวะวิกฤตนี้อย่างกว้างขวาง แต่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่างๆ ยังไม่มีทีท่าจะลดลงอย่างที่ควรจะเป็น นั่นคงเป็นเพราะการรณรงค์ต่างๆ ยังไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตในเชิงพฤติกรรม
แอมเวย์รวมพลังรีไซเคิล ช่วยแก้วิกฤตขยะ
“จากปณิธานของแอมเวย์ต่อสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นความรับผิดชอบของทุกคน แอมเวย์จึงได้ดำรงรักษาความมุ่งมั่นในด้านนี้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจเมื่อปี 2502 พร้อมใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้จากการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้นและสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดสารที่เป็นพิษ อาทิ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ แอล.โอ.ซี. ผลิตภัณฑ์ชนิดแรกของบริษัทที่คิดค้นขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ซึ่งปลอดภัยต่อระบบน้ำทิ้ง น้ำที่เกิดจากการใช้งานอาจนำมารดน้ำต้นไม้และพืชผักสวนครัวโดยไม่เกิดอันตราย นอกจากนั้น แอมเวย์ยังผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้เองเป็นส่วนใหญ่ โดยบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดเหลวบางชนิดประกอบด้วยพลาสติก 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นโพลีเอธิลีนที่เป็นวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นชั้นกลางระหว่างโพลีเอธิลีนบริสุทธิ์ที่อยู่ชั้นนอกและชั้นใน พลาสติกรีไซเคิลจึงไม่สัมผัสผลิตภัณฑ์ในขวด และยังทำให้ลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ลงได้ถึง 25% จากการผลิตขวดบรรจุภัณฑ์จำนวน 50 ล้านชิ้นต่อปี”
“อย่างไรก็ดี หนึ่งในปัญหาสำคัญที่บริษัทได้ตระหนักถึงมาโดยตลอดคือ ปริมาณขยะที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แอมเวย์ประเทศไทยจึงได้สร้างสรรค์กิจกรรม “ฉันมิใช่ขยะ...นะจ๊ะ” เพื่อเป็นอีกหนึ่งพันธสัญญาที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีและน่าอยู่ยิ่งขึ้น” นายกิจธวัช ฤทธีราวี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ริเริ่มโครงการ “ฉันมิใช่ขยะ... นะจ๊ะ” ที่แรกในโลก
แอมเวย์ประเทศไทยตระหนักถึงวิกฤตการณ์ขยะที่เกิดขึ้นในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ริเริ่มโครงการ“ฉันมิใช่ขยะ... นะจ๊ะ” (I’m not Rubbish) ตั้งแต่ปี 2538 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้นักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกได้แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยการรณรงค์ให้นำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วของแอมเวย์กลับคืนมายังบริษัท เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกและปลูกฝังการคัดแยกขยะที่ถูกวิธี ลดปริมาณขยะให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลหรือแปรรูปใช้ใหม่ และถือเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย
พลังเครือข่าย ร่วมรักษ์โลก
“โครงการนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากบรรดานักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และพนักงานโดยตลอดระยะเวลา 15 ปี โครงการ ”ฉันมิใช่ขยะ...นะจ๊ะ” สามารถรับคืนบรรจุภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะจากขวดพลาสติกที่ใช้แล้วทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านชิ้น” นายกิจธวัชกล่าวเพิ่มเติม
สำหรับโครงการ “ฉันมิใช่ขยะ...นะจ๊ะ” ในปี 2553 นี้ มีความพิเศษอยู่ตรงที่บริษัทได้ปรับรูปแบบกิจกรรมใหม่ โดยกระตุ้นคนไทยหัวใจอนุรักษ์ให้เข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นกับ “กิจกรรมมอบรางวัล 2 ต่อ” คือ ต่อที่ 1 สนุกกับการแลกรับของที่ระลึกจากคะแนนสะสม โดยนักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกสามารถนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วของแอมเวย์ 1 ชิ้นมาแลกเป็น 1 คะแนน และสะสมคะแนนเพื่อรับของที่ระลึก ต่อที่ 2 คือ ผู้ที่มีคะแนนสะสม 1,000 คะแนนต่อ 1 ชื่อ ได้รับ 1 สิทธิเพื่อลุ้นรับเครื่องกรองน้ำ eSpring (มูลค่า 34,310 บาท) ฟรีทันที 1 เครื่อง โดยจะประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัลในงานแอมเวย์เอ็กซ์โป 2011 ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้
ก้าวต่อไปของแอมเวย์
เป้าหมายของโครงการ “ฉันมิใช่ขยะ...นะจ๊ะ” บริษัทคาดหวังขอเป็นหนึ่งในองค์กรต้นแบบที่ช่วยลดปริมาณขยะในสังคมไทยเพื่อให้เราได้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดี อีกทั้งคนในสังคมก็จะมีสุขภาพกายและใจที่ดีตามไปด้วย แอมเวย์มีปณิธานที่จะมุ่งสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นและยินดีที่โครงการเหล่านี้จะกลายเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวสู่ความเจริญอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่งคั่งทางทรัพยากร
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า โลกใบนี้คือทรัพยากรของลูกหลานเรา เวลานี้เราได้หยิบยืมทรัพยากรของลูกหลานมาใช้มากเกินไปหรือเปล่า และถ้าเรายังคงใช้ทรัพยากรต่างๆ เหมือนอย่างในทุกวันนี้ เราจะเหลืออะไรถึงลูกหลานบ้าง ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะหันมาทบทวนถึงสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่รอให้ทุกคนในสังคมมาร่วมกันดูแล รักษา และอนุรักษ์โลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ที่มา: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ เวิรฟ :
วรญา มณีวรรณ (เพชร) โทร.0-2204-8229
พรชนันท์ มงคลกุล (กิฟท์) โทร.0-2204-8223