กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--ดีแทค
ดีแทคเดินหน้าสู่อนาคต วางแผนลงทุนเพิ่มเติม 30,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า เล็งเปิดให้บริการ 3 จีทันทีที่ได้ไลเซ่นส์ พร้อมยกระดับเครือข่ายให้เป็น EDGE ทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะเดียวกัน ประเดิมก้าวแรกการคิดเงิน (billing) ด้วยระบบ Interconnection Charge (IC) อย่างเป็นทางการในวันนี้ด้วยแพ็คเกจใหม่ “โอ” ที่ราคาค่าโทร “โอ....มั่กๆ” ที่ออกแบบมาเพื่อจับกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ที่ต้องการใช้บริการโพสต์เพดโดยเฉพาะ
นายซิคเว่ เบรคเก้ ซีอีโอบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดีแทควางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนเงิน 30,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อใช้ในการขยายเครือข่ายในต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลในชนบท ภายใต้แผนการลงทุนดังกล่าว ดีแทคเล็งที่จะติดตั้งสถานีฐานอีกประมาณ 3,000 แห่งทั่วประเทศ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 40% ของจำนวนสถานีฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ประมาณ 7,000 แห่ง
“ในขณะที่เราให้คำมั่นในการที่จะพัฒนาบริการ และความครอบคลุมของเครือข่ายให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เรายังให้คำมั่นในการที่จะให้ความช่วยเหลือต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย นี่คือเหตุผลที่เราพยายามลงทุนภายในประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นายซิคเว่กล่าว
ขณะเดียวกัน ดีแทคอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้บริการในระบบ 3จี และ HSDPA ขณะนี้ เรากำลังรอกระบวนการออกใบอนุญาตจากกทช เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้ว เราเชื่อว่าเราสามารถที่จะลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าวได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเอชเอสดีพีเอ (HSDPA) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถให้บริการรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 10 เมกะบิตต่อวินาทีภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมหน้าการให้บริการบรอดแบนด์สำหรับผู้ใช้บริการในชนบท”
นายซิคเว่กล่าวว่า ดีแทคจะยกระดับเครือข่ายทั้งหมดทั่วประเทศให้เป็น EDGE ภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วกว่าเครือข่าย GPRS ในปัจจุบันถึง 4 เท่า
“เรามั่นใจในความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และเรายังต้องการที่จะลงทุนเพิ่มเติมอย่างจริงจังภายในประเทศ เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังต้องการการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านโครงข่ายโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ต่อไปในอนาคต”
นายสันติ เมธาวิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้า บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมประเทศไทย กำลังก้าวไปสู่ยุคของการเปิดเสรีอย่างเต็มตัว ซึ่งเริ่มต้นขึ้นด้วยการประกาศใช้ค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC ที่บริษัทโทรคมนาคมเจ้าของโครงข่ายต้องจ่ายให้แก่กันและกันสำหรับการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมของอีกฝ่ายหนึ่ง
“การเริ่มต้นการคิดเงินอย่างเป็นทางการของระบบ IC ในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับทั้งอุตสาหกรรม เพราะนอกจากเจ้าของโครงข่ายที่รับสายเข้าจะมีรายได้จากค่าตอบแทนการใช้โครงข่ายแล้ว เจ้าของโครงข่าย ที่โทรออกก็ยังมีรายได้จากผู้ใช้บริการ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนจะอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานจริง ซึ่งนอกจากจะไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มจากผู้ใช้แล้ว อัตราค่าบริการยังจะได้รับการปรับให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ เมื่อมี IC แล้ว เราเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศจะได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ปัญหาการแออัดของ โครงข่ายและปัญหาการโทรติดยากจะลดลงอย่างแน่นอน” นายสันติกล่าว
เพื่อตอบรับการเริ่มต้นก้าวใหม่ ดีแทค โพสต์เพด ได้แนะนำแพ็คเกจใหม่ “โอ” ด้วยแคมเปญ “โทรเท่าไหร่ จ่าย ไม่เกิน 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง” โดยตัวแพ็คเกจประกอบด้วยอัตราค่าบริการรายเดือน 99 บาทต่อเดือนนาน 6 รอบบิล ทั้งนี้ ค่าโทรจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ค่าโทรหาหมายเลขภายในเครือข่ายเดียวกัน (On-Net) ที่ ค่าโทรในนาทีที่ 1-5 จ่ายเพียง 1 บาทต่อนาที นาทีที่ 6-60 ไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมฟรี SMS 100 ครั้งต่อเดือน และค่าโทรหาหมายเลขในเครือข่ายอื่นๆ (Off-Net) ที่ค่าโทรนาทีที่ 1-5 จ่าย 2 บาทต่อนาที นาทีที่ 6-60 ไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมค่าส่ง SMS 2 บาทต่อครั้ง
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net