กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--ปตท.
ระหว่างวันที่ 28-31 มกราคม 2554 ณ เมืองดาวอส “Davos” ประเทศสมาพันธรัฐสวิส วางเป้าแสดงบทบาทความร่วมมือ รัฐ-เอกชนไทย สร้างความมั่นใจ หวังดึงต่างชาติลงทุน พร้อมแสวงหาโอกาสรุกธุรกิจพลังงานในต่างประเทศเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานไทย
นายเกียรติ สิทธิอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมนำคณะเดินทางไปร่วมการประชุมประจำปี World Economic Forum พร้อมแสดงวิสัยทัศน์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเมืองของโลกภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ณ เมืองดาวอส ประเทศสมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 28-31 มกราคมศกนี้ โดยคณะนักธุรกิจไทยที่จะร่วมเดินทางไปกับคณะรัฐบาลไทยในครั้งนี้ ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ ธนาคารกรุงเทพ โดยมีกรอบการหารือที่สำคัญ อาทิ การหาแนวทางการจัดการและสร้างบรรทัดฐานร่วมกันในการผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจโลกให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในเอเชีย ซึ่งมีการพึ่งพิงการส่งออกในสัดส่วนที่สูงว่า จะทำอย่างไรให้สามารถพึ่งพิงการเจริญเติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้นได้ การหารือแนวทางการแก้ไขผลกระทบของค่าเงินที่แข็งขึ้นในหลายประเทศ การหารือเพื่อทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพมากขึ้น และหัวข้อที่ไทยจะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยเพื่อเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกมาร่วมประชุมในการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเศรษฐกิจโลกในระดับภูมิภาค หรือ Regional Forum ในต้นเดือนมิถุนายน 2555
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ได้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานของ World Economic Forum เป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งการเข้าร่วมประชุมในปีนี้ก็จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการด้านพลังงานของไทย ซึ่งข้อมูลข่าวสารที่จะมีการแลกเปลี่ยนกับผู้นำและนักธุรกิจด้านพลังงานระดับโลกในครั้งนี้ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญในการที่ไทยเราจะนำมากำหนดทิศทางธุรกิจและการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยจะมีการพบและเจรจา เพื่อปูทางในการทำธุรกิจกับพันธมิตรในอนาคต อีกทั้ง การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ยังมีนัยสำคัญ เพื่อส่งสัญญาณให้ทุกประเทศรับรู้ว่า ปตท. พร้อมในการลงทุนในทุกประเทศที่มีศักยภาพและมีความน่าสนใจทางธุรกิจ
นายเทวินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ปตท.ได้วางกรอบการหารือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อมองหาโอกาสการร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงาน ด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมพลังงาน ด้านนวัตกรรมพลังงาน และทิศทางที่จะนำพลังงานทดแทนที่เหมาะสมมาขับเคลื่อนต่อไป ซึ่ง ปตท.มีความสนใจเป็นพิเศษที่จะลงทุนในประเทศแถบเอเชีย ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง แอฟริกา ตะวันออกกลาง