ผลสำรวจจากวีซ่าพบว่าการซื้อขายหุ้นเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งในหมวดหมู่ของการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 26, 2011 16:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ ผลสำรวจจากวีซ่าพบว่าการซื้อขายหุ้นเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งในหมวดหมู่ของการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทยผู้ตอบแบบสอบถามใช้จ่ายกว่า 1,763 เหรียญสหรัฐผ่านระบบออนไลน์เพื่อการซื้อ-ขายหุ้น, ตั๋วเครื่องบิน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ผู้บริโภคชาวไทยทำการซื้อสินค้าออนไลน์เป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบอี-คอมเมิร์ชปี 2553[1] โดยวีซ่า (2010 Visa eCommerce Consumer Monitor) พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 8 คน ใน 10 คน (ร้อยละ 84) ซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา การสำรวจทำโดยการสอบถามผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นประจำจำนวน 3,156 คน ในตลาด อี-คอมเมิร์ช ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว 6 แห่ง ได้แก่ จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไต้หวัน, และประเทศไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์และแรงจูงใจในการกระทำดังกล่าว จากการสำรวจพบว่า ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในประเทศไทย ใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 1,763 เหรียญสหรัฐ ใน 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า กลุ่มสินค้าที่มีการใช้จ่ายออนไลน์มากที่สุดในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย ได้แก่ การซื้อ-ขายหุ้น (177 เหรียญสหรัฐ), ตั๋วโดยสารเครื่องบิน (155 เหรียญสหรัฐ) และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (151 เหรียญสหรัฐ) สำหรับเว็บไซต์ที่มีการเข้าไปดูบ่อยที่สุด ได้แก่ เครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network) ร้อยละ 90 เว็บไซต์ดาวน์โหลดเพลงร้อยละ 89, หนังสือ ร้อยละ 86 และเว็บไซต์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ร้อยละ 86 คุณสมบูรณ์ ครบธีรนนท์, ผู้จัดการบริษัทวีซ่า ประจำประเทศไทย, กล่าวว่า “การจองตั๋วเครื่องบินโดยสาร, การซื้อบริการด้านการเงิน หรือการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์กำลังเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยจะกลายเป็นการ ใช้จ่ายปกติเช่นเดียวกับการไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาเก็ต ในความเป็นจริง ผู้บริโภคส่วนมากที่ใช้จ่ายทางออนไลน์รู้สึกสะดวกกว่าที่จะซื้อของทางอินเตอร์เน็ตเมื่อเปรียบเทียบกับการไปที่ร้านค้า เหตุเพราะสามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายและทำการซื้อได้อย่างสะดวกสบายที่บ้านของตนเอง” “ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ตระหนักว่าความปลอดภัยในการชำระเงินเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อมีการทำรายการออนไลน์ โดยวีซ่าได้เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ถือบัตร ด้วยการยืนยันตัวตนพร้อมกับต้องใส่รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (one-time password, Verified by Visa) ดังนั้น ผู้บริโภคชาวไทยสามารถใช้บัตรวีซ่าเพื่อทำการใช้จ่ายออนไลน์ โดยแน่ใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะมีการดำเนินการอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้จ่ายผ่านเว็บในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม” จากข้อมูลการสำรวจของวีซ่า สิ่งจูงใจหลักในการใช้จ่ายออนไลน์คือความสะดวกสบาย ตามมาด้วยการค้นหาส่วนลดต่างๆ โดยผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวว่า พวกเขาซื้อสินค้าออนไลน์เนื่องจากสามารถซื้อได้ตลอดเวลา (ร้อยละ 84) สามารถค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าได้ง่าย (ร้อยละ 81) และการเปรียบเทียบราคาสินค้าเพื่อประหยัดเงิน (ร้อยละ 79) โดยร้อยละ 72 กล่าวว่า พวกเขาซื้อสินค้าออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังร้านค้า ทั้งนี้ เมื่อสอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้จ่ายออนไลน์ใน 12 เดือนที่ผ่านมา ร้อยละ 77 ของผู้ตอบคำถามชาวไทยกล่าวว่า พวกเขารู้สึกพึงพอใจในกระบวนการชำระเงินที่ง่ายของการทำรายการออนไลน์ และร้อยละ 75 กล่าวว่า พวกเขารู้สึกพึงพอใจกับความรวดเร็วในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ อัตราค่าใช้จ่ายโดยประมาณของผู้ซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ใน 12 เดือนที่ผ่านมของแต่ละประเทศ 1 ไต้หวัน 4,041เหรียญสหรัฐ 2 จีน 2,557เหรียญสหรัฐ 3 มาเลเซีย 2,006เหรียญสหรัฐ 4 ไทย 1,763เหรียญสหรัฐ 5 อินโดนีเซีย 1,572เหรียญสหรัฐ 6 อินเดีย 1,547เหรียญสหรัฐ อัตราค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 2,086เหรียญสหรัฐ แหล่งที่มา: การสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบอี-คอมเมิร์ชปี 2553 โดยวีซ่า ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านข่าวประชาสัมพันธ์ กรุณาติดต่อ ธัญญวรรณ ศุระศรางค์ หรือ วรางคณา พวงศิริ บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด อีเมล์ oui@spark.co.th or warangkana@spark.co.th โทร. 02 653-2717-9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ