TMB Analytics หรือ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB ชี้ ธนาคารพาณิชย์แข่งระดมเงินฝาก ผู้ฝากเงินเตรียมรอแคมเปญ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 26, 2011 16:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB TMB Analytics หรือ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB ประเมิน ผู้ฝากเงินมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้น เนื่องจากในปีนี้ธนาคารพาณิชย์จะหันมาแข่งขันระดมเงินฝาก หลังการประกันเงินฝากลดวงเงินอยู่ที่สูงสุด 50 ล้านบาท และ 1 ล้านบาท กลางเดือนสิงหาคมศกนี้และศกหน้าตามลำดับ แนะผู้ฝากเงินพักเงินในเงินฝากระยะสั้นหรือกองทุนตลาดเงิน รอแคมเปญเงินฝากที่ดีกว่าในช่วงไตรมาสสองของปี ตั้งแต่ 11 สิงหาคมปีนี้ พระราชบัญญัติสถาบันเงินคุ้มครองเงินฝาก จะยกเลิกการประกันเงินฝากเต็มจำนวน โดยจะลดวงเงินประกันมาอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน และในปีถัดไปตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2555 วงเงินดังกล่าวก็จะอยู่ที่ 1 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ฝากเงินมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นเนื่องจากธนาคารผู้รับฝากเงินต้องใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการแข่งขันระดมเงินฝาก เนื่องจากการแข่งขันดังกล่าว ไม่เพียงต้องแข่งขันกันเองจากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ พรบ. นี้ แต่ยังต้องแข่งขันกับเครื่องมือการระดมเงินที่ไร้ความเสี่ยงและผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ เงินฝากและสลากของธนาคารออมสิน เป็นต้น ดังนั้น ในช่วงที่ดอกเบี้ยกำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้น และ การกำหนดวงเงินคุ้มครองสูงสุดกำลังจะบังคับใช้ ผู้ฝากเงินอาจรอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่จะทยอยออกมา อาทิ เงินฝากประจำ 1 ปี (ที่ผู้ฝากเงินนิยมฝาก รองจากเงินฝากประจำ 3 เดือน) เนื่องจากธนาคารต้องการล็อคต้นทุนในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ผลตอบแทนที่เสนอก็ต้องมากในระดับที่จะให้ผู้ฝากเงินพอใจแช่เงินฝากไว้ยาวพอสมควรด้วย สำหรับในช่วงแรกที่การคุ้มครองวงเงินสูงสุดอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ผู้ฝากเงินกลุ่มแรกที่จะได้รับผลกระทบมีเพียงประมาณหมื่นรายหรือร้อยละ 0.02 ของผู้ฝากเงินทั้งหมดเกือบ 59 ล้านราย แต่จำนวนเงินฝากนั้นมีรวมกันเกือบ 1.8 ล้านล้านบาท หรือ ร้อยละ 27 ของเงินฝากทั้งหมด 6.5 ล้านล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณเงินฝากที่เกินการคุ้มครอง 50 ล้านบาทต่อราย รวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท โดยกระจุกตัวอยู่ในธนาคารขนาดใหญ่ประมาณร้อยละ 66 และอยู่ในธนาคารขนาดกลางและเล็กร้อยละ 24 และ 10 ตามลำดับ หากเรามีสมมุติฐานว่า ผู้ฝากเงินกลุ่มดังกล่าวกระจายเงินฝากไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อให้เงินฝากของตนได้รับการคุ้มครองเต็มที่ เมื่อประเมินผลลัพธ์สุทธิของเงินฝากที่อาจจะมีการโยกย้ายแล้ว เงินฝากจะไหลเข้าสุทธิมายังธนาคารขนาดกลางและเล็กประมาณ 4 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นโอกาสผู้ฝากเงินจะได้ผลประโยชน์มากขึ้น เนื่องจากโดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารขนาดเล็กและกลางจะสูงกว่าของธนาคารขนาดใหญ่เฉลี่ยประมาณ 22 และ 10 สตางค์ ตามลำดับ ขณะเดียวกันธนาคารขนาดกลางและเล็กน่าจะได้ประโยชน์จากเงินฝากที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี เมื่อถึงสิงหาคมปีหน้าซึ่งการคุ้มครองจะเหลือเพียง 1 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน การกระจายเงินฝากของลูกค้าเงินฝากเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทั้งหมด ไม่สามารถเป็นไปได้หรือเป็นไปได้ยาก เพราะมีธนาคารอยู่เพียง 30 กว่าแห่ง อีกทั้งการกระจายเงินฝากไปยังธนาคารต่างๆ อาจทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น อันดับความเสี่ยงที่แสดงถึงความมั่นคงแข็งแกร่งของฐานะการเงินจะเป็นจุดขายสำคัญในการดึงดูดเงินฝาก โดยในที่สุดแล้วธนาคารขนาดใหญ่อาจจะได้เปรียบกว่าโดยเปรียบเทียบ ขณะที่ธนาคารขนาดกลางและเล็กอาจต้องเสนออัตราดอกเบี้ยให้จูงใจลูกค้ามากขึ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่จะทำให้ลูกค้าเงินฝากต้องใส่ใจบริหารความเสี่ยงในเงินออมของตนมากขึ้นเพื่อสมดุลของความเหมาะสมระหว่างอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ขอขอบคุณในความร่วมมือ สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 299 1950, 1953/ 02 242 3260/ 089 967 1411

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ