กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1334 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.86 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.89 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19550 บาท กับ 19650 บาท GFG11 เปิดที่ 19740 บาท และ GFJ11 เปิดที่ 19850 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19740 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 19860 บาท น้ำมันบวก 1.14 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 87.33 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 8.25 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 11985.44 จุด ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นบ้างช้าๆ ซื้อขายอยู่ในช่วงแคบ 1333-1338 เหรียญ โดยขึ้นในช่วงเช้าและดีดกลับมาอยู่ที่เดิมในช่วงบ่าย สำหรับค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาโดยตลอด มาอยู่ที่ระดับ 30.85 บาท/ดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2220 คู่สัญญา และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 1841 คู่สัญญา ราคาทองคำในตลาดลอนดอนเองค่อยๆปรับตัวลดลงไปทำต่ำสุดที่ระดับ 1326 เหรียญ ก่อนที่จะดีดกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1333 เหรียญในตลาดComex และช่วงหลังตลาด Comex มีผลการประชุม FED มี 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.ยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไว้ที่ 0-0.25% 2. ยังคงใช้มาตรการ QE จำนวนเงิน 6แสนล้านดอลลาร์ต่อไป 3.ภาพรวมเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวแต่ยังไม่พอใจ มีภาพของอัตราเงินเฟ้อมาบ้างยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก จึงยังคงอัตราดอกเบี้ย ทำให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาได้ ราคาทองคำในเช้าวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1343 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตัวเลขยอดสร้างบ้านใหม่ ปรับตัวสูงขึ้น 17% มาอยู่ที่ 329,000 หลัง โดยคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้จะทรงตัวและไม่ค่อยดีนัก คือ ผู้ขอสวัสดิการการว่างงานคาดว่าปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 3พันราย จากระดับ 403000 ราย เป็น 407000 ราย และตัวเลขยอดสั้งซื้อสินค้าคงทนคาดว่าปรับตัวสูงขึ้น 1.6% และ Core Durable good คาดว่าปรับตัวลดลงอยู่ที่ 0.9% ค่าเงินดอลลาร์เองยังกลับมาอ่อนค่าต่อเนื่องหลังจากประกาศของ FED ค่าเงินดอลลาร์ต่อยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3694 ดอลลาร์/ยูโร ดาวโจนส์ทะลุ 12000 จุด ในรอบ 2ปีครึ่ง ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูเหมือนจะพลิกฟิ้นกลับขึ้นมา
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่สภาวะทรงตัวอีกครั้งหนึ่งและหลังจากเส้นค่าเฉลี่ยใน 3 วันที่ผ่านมาเมื่อวานไม่ได้มีการทำจุดต่ำสุดใหม่และดีดกลับขึ้นมาที่ระดับ 1333 เหรียญ และได้แรงซื้อกลับทะลุแนวต้านแรกที่ระดับ 1340 เหรียญ ขณะนี้ อยู่ที่ระดับ 1343 เหรียญ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในระยะสั้น Oscillator รายชั่วโมงบางตัวเริ่มตัดขึ้น หมายถึงสัญญาณระยะสั้นให้เป็นการซื้อ สรุปราคาทองคำภาพใหญ่ๆยังเป็นขาลง เริ่มมีการแกว่งตัวและสะสมพลัง และเริ่มไปทดสอบแนวต้านแรกที่ระดับ 1345 เหรียญ และแนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 1355 เหรียญ แนวรับยังคงอยู่ที่ระดับ 1320 เหรียญ สรุปได้ว่าโดยภาพรวมๆตลาดเริ่มมีแรงดีดกลับบ้างแต่ว่ายังไม่มีความชัดเจน 100% ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 19550 บาท และ 19650 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1335 เหรียญราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19500 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19750 บาทGold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19950 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวน่าจะมีการเทขายทำกำไร และมีการปิด Short Covering สำหรับกรอบของนักลงทุน น่าจะอยู่ในช่วง 1338-1345 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังเป็นลักษณะของการ จับทิศทางตลาด Wait & See รอความชัดเจน เนื่องจากราคายังทรงตัวอยู่ได้ และสัญญาณการดีดกลับของราคาทองคำเข้ามาบ้างแล้วในขณะนี้
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง คง Port เท่าเดิม wait & See ยังรอซื้อเมื่อราคาตกเท่านั้น
สรุปได้ว่า ทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุลในระยะแรก เริ่มมีการดีดกลับบ้างตามเทคนิค รอดูความชัดเจนในคื