กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--สตีเบล เอลทรอน เอเซีย
บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด ผู้นำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนสัญชาติเยอรมัน ภายใต้แบรนด์ “สตีเบล เอลทรอน” ฉลองยอดขายเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน 1,000,000 เครื่องที่ขายในเมืองไทย พร้อมประกาศแผนเดินหน้าพัฒนาไลน์สินค้าทั้งตลาดแมสและพรีเมี่ยมเต็มสูบเจาะตลาดทุกกลุ่ม รวมถึงการเร่งอัดฉีดขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 15% รับปีกระต่าย 2011
มร.โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเชีย จำกัด เปิดเผยในโอกาสฉลองความสำเร็จของบริษัทที่สามารถสร้างยอดขายเฉพาะในประเทศไทย 1,000,000 เครื่อง ว่า “บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าในประเทศไทยที่เชื่อมั่นและไว้วางใจให้ “สตีเบล เอลทรอน” เป็นแบรนด์ในใจของคนไทยกว่า 1 ล้านคนในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มผลิตเครื่องทำน้ำอุ่นในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จของบริษัทฯ และเป็นความภาคภูมิใจที่โรงงานผลิตของ “สตีเบล เอลทรอน” ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน กลายเป็นสำนักงานใหญ่เพื่อป้อนสินค้าและฐานกำลังการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
“สำหรับความสำเร็จของสตีเบล เอลทรอน ในรอบปี 2010 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนท่ามกลางการแข่งขันทางการตลาดที่สูงทั้งในแง่ของราคาและจำนวนที่เพิ่มขึ้นของคู่แข่งรายใหม่ๆ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทย 33% หรือเท่ากับยอดขายจำนวน 115,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา และ 165,000 เครื่อง เมื่อรวมตลาดส่งออก”
“ในปี 2011 นี้จะเป็นปีก้าวกระโดดครั้งสำคัญของบริษัทฯ ทั้งในแง่การเพิ่มกำลังการผลิตให้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยในแง่การเพิ่มกำลังการผลิต บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้อีก 15% จาก 155,000 เป็น 180,000 เครื่อง ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มสายการผลิต การเพิ่มการขายตลอดทั้งปี การสต็อกสินค้าเพื่อรองรับในช่วงไฮท์ซีซั่น และการทำให้สายผลิตภัณฑ์ (product range) มีมากขึ้น ซึ่งจากแนวทางดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทฯมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในปีนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีอยู่ รวมถึงเป็นการสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่ม A+ ถึง C อาทิ กลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นพรีเมี่ยม ด้วยดีไซน์ระดับโลก และคุณสมบัติที่เหนือชั้นกว่า
รวมถึงการประหยัดพลังงานด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเครื่องทำน้ำร้อนประเภทมัลติพอยท์ ที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายจุด และควบคุมด้วยไมโครคอมพิวเตอร์ กลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียม และสุดท้าย เรียกว่า “renovation package” ซึ่งเป็นการขายแพกเกจเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน สำหรับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องเก่า และติดตั้งเครื่องใหม่พร้อมกัน 2 จุด ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม”
ปัจจุบัน “สตีเบล เอลทรอน” มีสินค้ารุ่นต่างๆ ในกลุ่มเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนให้เลือกมากที่สุดในตลาด ด้วยยังคงเน้นจุดขายด้านคุณสมบัติฟังก์ชั่นการใช้งานและดีไซน์ รูปลักษณ์ที่สวยงาม ทันสมัย (functional & emotional) สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้ยังคงเน้น กลยุทธ์การตลาด “More & More” ภายใต้แคมเปญ “I Love Stiebel More & More” ได้แก่ “More Experience” ซึ่งสะท้อนจากการเป็นผู้นำตลาด และยอดขาย 1 ล้านเครื่องที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค “More Technology” ดังเช่นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นดิจิตอลอัจฉริยะ “More Saving” ระบบ Aerojet ที่ช่วยประหยัดพลังงาน และ “ Move Love” สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น Thank you model สำหรับลูกค้าในประเทศไทยเท่านั้น ด้วยราคาเพียง 2,990 บาท”
“I Love Stiebel More & More” เป็นแคมเปญใหม่ล่าสุดที่มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคให้เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมทั้งส่งมอบความรักความรู้สึกที่ดีผ่านสินค้าและบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผูกผัน และรักแบรนด์ให้มากขึ้น สะท้อนแนวคิด “ยิ่งรู้จัก…ยิ่งรักยิ่งผูกพัน” ผ่านสื่อต่างๆทั้ง Above the line และ Below the line กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ได้แก่ วิทยุ บิลบอร์ด โทรทัศน์ดาวเทียม-เคเบิล สื่อ ณ จุดขาย (POS) เป็นต้น รวมถึงการกิจกรรรมทางการตลาด โปรโมชั่น ร่วมกับดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะใช้งบการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 60 ล้านบาท”
“สำหรับยอดขายของสตีเบล เอลทรอน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (รวมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากประเทศไทยและเยอรมนี) มีการเติบโตอย่างมากเป็นประวัติการณ์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 320 ล้านบาท เป็น 1,400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีเป้าหมายที่จะรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกิจกรรมต่างในภูมิภาค ได้แก่ การเข้าร่วมนิทรรศการหรือเอ็กซิบิชั่นเทรดแฟร์ระดับโลกในประเทศเยอรมนีและจีน การสรรหาตัวแทนจำหน่ายใหม่ๆ โดยเฉพาะในปี 2011 นี้จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดเวียดนามและจีน การนำแคมเปญ More & More ไปใช้ในประเทศเป้าหมาย รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายในเมืองไทยสู่ตลาดต่างประเทศ เป็นต้น มร.โรลันด์ กล่าว