กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--IR network
“บมจ.เอื้อวิทยา คว้างานใหม่ในโครงการผลิตเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จะรับรู้ทั้งหมดในปี 2554 และมีแผนยื่นประมูลโครงการเมกะโปรเจ็คในปี 2554 มูลค่าในส่วนของเสาสายส่งไฟฟ้ากว่า 2 พันล้านบาท ตลอดจนบุกตลาดใหม่ด้านโครงสร้างเหล็กทั่วไป ส่งมอบไปแล้วหลายโครงการ ต้นปีนี้รับงานเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท ส่งผลดัน Backlog ทะลุ 500 ล้านบาท ยังไม่นับที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายเจ้า คาดว่าปี 2554 ดันรายได้โตกว่า 20%”
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) (CEN) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้รับแจ้งจาก บมจ.เอื้อวิทยา (UWC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CEN ว่าได้รับงานใหม่ทั้งหมดในเดือนมกราคมมูลค่ารวมทั้งสิ้น 123 ล้านบาท โดยได้มีการเซ็นต์สัญญาในส่วนงานเสาสายส่งไฟฟ้า จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมทั้งหมด 103 ล้านบาท ดังนี้
1. โครงการผลิตเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้กับบริษัท ไทยซูมิเดนเอ็นยิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (TSEC) เพื่อใช้ในโครงการ 115KV-IPP-GHO-L3 แกลง-จันทบุรี ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่า 48 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 8 เดือน สิ้นสุดเดือนตุลาคม 2554
2. โครงการผลิตเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้กับบริษัท เพอร์เฟคท์ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส จำกัด (PES) เพื่อใช้ในโครงการ 230KV-TS11-08-L1 สุรินทร์-บุรีรัมย์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่า 55 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 7 เดือน สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2554
ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีโครงการเมกะโปรเจ็ค 2 โครงการซึ่งเลื่อนเปิดประมูลมาจากปลายปีที่แล้ว รวมกับโครงการอื่นๆ มีมูลค่าโดยประมาณในส่วนของเสาสายส่งไฟฟ้ากว่า 2 พันล้านบาท โดย UWC คาดว่าจะคว้างานมาประมาณร้อยละ 50 เนื่องจากสินค้าของ UWC ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพและบริการ และ UWC เป็นผู้นำตลาดที่มีความเชี่ยวชาญสูง ตลอดจนได้รับใบอนุญาตให้ผลิตเสาสายส่งไฟฟ้าได้แรงดันสูงที่สุดที่ใช้ภายในประเทศที่ 500 kV
นอกจากนี้ UWC ยังเป็นผู้ผลิตเสาโทรคมนาคม ซึ่ง UWC มีความพร้อมในผลิตเสา 3G เพื่อรองรับโครงข่าย 3G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยที่ผ่านมา UWC ได้รับงานเสาโทรคมนาคมหลายงาน งานล่าสุดที่เพิ่งเซ็นสัญญาคือ โครงการทรูมูฟเฟส 9 จำนวน 75 ต้น มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ณ ปัจจุบันได้ส่งมอบงานไปแล้วประมาณ 80%
ส่วนงานโครงสร้างเหล็กทั่วไป (General Fabrication) ซึ่งทาง UWC ได้แตกธุรกิจนี้ขึ้นมาใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว เนื่องจากทางผู้บริหารเล็งเห็นโอกาสของงานในส่วนนี้ ประกอบกับศักยภาพและความชำนาญที่มีอยู่สูงของ UWC ทำให้ UWC มีงานในส่วนนี้อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มสดใส โดยในปีที่ผ่านมา UWC ได้ส่งมอบงานโครงสร้างเหล็กทั่วไปไปแล้ว ดังนี้ โครงการเพาเวอร์บาย สาขาหัวหิน โครงการส่วนโครงสร้างเหล็กทั่วไปของสถานีไฟฟ้าย่อยนิคมอุตสาหกรรมนวนคร รวมงานที่ส่งมอบไปแล้วทั้งหมด จำนวน 102 ตัน นอกจากนี้ ในปีนี้ UWC ได้รับงานใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ จำนวนกว่า 500 ตัน มูลค่ารวมเกือบ 20 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ Ample Tower ซึ่งเป็นสำนักงานให้เช่าบนถนนบางนา-ตราด และโครงเหล็กสำหรับคลังสินค้าอีกจำนวน 2 โครงการ ให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ซึ่งทาง UWC คาดว่าจะได้รับงานจากลูกค้ารายนี้เพิ่มอีกหลายโครงการในอนาคต รวมทั้ง UWC อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายเจ้า และหวังส่วนแบ่งจากงานเมกะโปรเจ็คโครงสร้างเหล็กของไฮเปอร์มาร์ทบางนาซึ่งจะเปิดประมูลในปีนี้เช่นกัน นอกจากนี้ UWC มีแผนที่จะขยายงานโครงสร้างเหล็กทั่วไปไปสู่อุตสาหกรรมที่หลากหลายขึ้น โดยตั้งเป้าไปสู่โครงสร้างเหล็กสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีภายใน 3-5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ UWC ยังมีบริการชุบสังกะสีและจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมคุณภาพสูง
นับว่าปีนี้เป็นปีที่สดใสสำหรับเอื้อวิทยา เนื่องจากมีงานเมกะโปรเจ็คออกมาหลายงาน ทั้งงานในส่วนเสาสายส่งไฟฟ้า เสาโทรคมนาคม เสา 3G ตลอดจนงานโครงสร้างเหล็กทั่วไป ซึ่งเป็นตลาดใหม่และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ไกล