กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--ก.ล.ต.
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ประจำไตรมาสแรกของปี 2554 ซึ่งได้หารือกันถึงมาตรการและแนวทางปฏิบัติของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพื่อดูแลและคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุน สรุปเรื่องที่สำคัญได้ดังนี้
1. การรับประกันรายได้ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบัน บลจ. ที่จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มักเสนอโครงสร้างที่มีบุคคลที่สามรับประกันรายได้ของอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนลงทุน เพื่อประโยชน์ในการเสนอขายหน่วยลงทุน
ก.ล.ต. จึงเห็นร่วมกับสมาคมที่จะให้ บลจ. ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์และการประเมินความสามารถ (due diligence) ของผู้รับประกันรายได้ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนว่า บลจ. ได้พิจารณาฐานะทางการเงินของผู้รับประกันรายได้ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการที่ผู้รับประกันรายได้ไม่ปฏิบัติตามสัญญารับประกันรายได้
สำหรับในระยะต่อไป ก.ล.ต. จะดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อกำหนดให้ผู้รับประกันรายได้ต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือและเปิดเผยผลการจัดอันดับดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน สำหรับโครงสร้างการรับประกันรายได้ที่ผู้เช่าเป็นบริษัทจัดตั้งใหม่เพื่อเช่าอสังหาริมทรัพย์จากกองทุนรวม
โดยมีบริษัทแม่ซึ่งถือหุ้นทั้งหมดของผู้เช่า เป็นผู้รับประกันรายได้ที่ผู้เช่าจะต้องจ่ายให้แก่กองทุนนั้น จะกำหนดให้ต้องมีการเปิดเผยคำเตือนเพิ่มเติมในลักษณะที่ว่า การที่ผู้รับประกันรายได้เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันกับผู้เช่าทรัพย์สิน การรับประกันตามโครงสร้างนี้จึงอาจไม่ได้ลดความเสี่ยงของกองทุนในกรณีที่ผู้เช่าไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาเช่าที่มีต่อกองทุน
2. การโฆษณาและการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม
เนื่องจากในระยะที่ผ่านมา การขายหน่วยลงทุนมีการแข่งขันโดยมีการส่งเสริมการขายที่รุนแรงมากขึ้น โดยในการโฆษณาเน้นให้ข้อมูลเรื่องการแจกของแถมเป็นหลัก ก.ล.ต. จึงขอให้สมาคมชี้แจงสมาชิกเพื่อให้การโฆษณาขายกองทุนรวมเน้นให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการลงทุนมากกว่าการเน้นเรื่องของแถมเพียงอย่างเดียว ซึ่งข้อมูลสำคัญที่ควรให้แก่ผู้ลงทุน เช่น ลักษณะกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนรวม เป็นต้น ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการโฆษณาต่อไป
พร้อมกันนี้ เนื่องจากข้อมูลเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างกองทุนเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุน ในการใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ในการประชุม ก.ล.ต. จึงได้ขอความร่วมมือให้สมาคมประสานงานกับบริษัทจัดอันดับผลการดำเนินงานของกองทุน เช่น Lipper หรือ Morningstar หรืออาจจัดให้มีองค์กรกลางในการจัดทำข้อมูลดังกล่าว เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสมและเข้าใจง่ายแก่ผู้ลงทุนในวงกว้างเป็นประจำสม่ำเสมอ รวมถึงให้สมาคมทำการประชาสัมพันธ์ช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวให้ผู้ลงทุนรับทราบด้วย
3. การทำธุรกิจร่วมกันระหว่าง บลจ. กับธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในเครือ
เนื่องจากในระยะที่ผ่านมานั้น บลจ. มีการทำธุรกิจร่วมกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และบริษัทในเครือ ดังนั้น เพื่อให้การประกอบธุรกิจจัดการกองทุนของ บลจ. อยู่ในมาตรฐานและจรรยาบรรณอันดีโดยต่อเนื่อง ก.ล.ต. จึงต้องขอย้ำให้ บลจ. มีความระมัดระวังการใช้บริการกับผู้ถือหุ้นและเครือข่าย โดยไม่ให้ขาดความเป็นอิสระในการตัดสินใจทางธุรกิจ การจัดการลงทุน และจริยธรรมในการขายหน่วยลงทุน ซึ่งต้องอยู่ในมาตรฐานอันดีที่ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุนกำหนด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก มิใช่เพื่อประโยชน์ของบริษัทในกลุ่ม
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ขอความร่วมมือให้ บลจ. แสดงบทบาทของตนเองมากขึ้นในการช่วยดูแลและคุ้มครองผู้ลงทุน โดยในการขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ให้ บลจ.ทำ due diligence เพื่อประเมินความสามารถของผู้รับประกันรายได้ในการปฏิบัติตามสัญญาของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ผู้รับประกันจะปฏิบัติไม่ได้ตามสัญญารับประกัน สำหรับในการโฆษณากองทุนรวม บลจ. ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะกองทุนรวม ความเสี่ยง
และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนรวมด้วย ไม่ควรให้ข้อมูลแต่เฉพาะของแถมหรือสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลกองทุนรวมที่สำคัญอย่างเพียงพอก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน รวมทั้งสมาคมควรมีการเผยแพร่ข้อมูลเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างกองทุนให้บ่อยและแพร่หลายมากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ลงทุนได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ บลจ. ต้องบริหารจัดการลงทุนให้แก่ลูกค้าโดยยึดหลัก fiduciary duties คือ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ