ก.พลังงาน ชี้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้น เหตุราคาตลาดโลกพุ่ง จากโอเปกลดการผลิตลงวันละ 1.2 ล้านบาร์เรล

ข่าวทั่วไป Monday May 14, 2007 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน ชี้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้น เหตุราคาตลาดโลกพุ่ง จากโอเปกลดการผลิตลงวันละ 1.2 ล้านบาร์เรล ความไม่สงบในไนจีเรีย และสำรองน้ำมันเบนซินสหรัฐ ฯ ลดต่ำสุดในรอบ 20 ปี เชื่อสถานการณ์ในอิหร่าน ไม่ส่งผลกระทบมากนัก มั่นใจการเพิ่มส่วนต่างแก๊สโซฮอล์ - เบนซิน 95 ถึง 3.30 บาทต่อลิตร จูงใจประชาชนหันมาใช้แก๊สโซฮอล์ เพิ่มขึ้นทดแทน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินในประเทศปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ได้ปรับขึ้น โดยการลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก มีผลให้การผลิตน้ำมันดิบต่ำกว่าที่ควรวันละ 1.2 ล้านบาร์เรล สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศไนจีเรีย ที่ทำให้กำลังผลิตลดลงอีก 8 แสนบาร์เรลต่อวัน ปัญหาที่ยืดเยื้อจากการทำสงครามในประเทศอิรักที่ยังไม่มีทีท่าจะสงบลง
นอกจากนี้ ปัจจุบันเป็นช่วงที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ หยุดเพื่อทำการซ่อมบำรุงรักษาประจำปี ประกอบกับความต้องการน้ำมันเบนซินของโลกเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล จึงส่งผลให้สำรองน้ำมันเบนซินในประเทศสหรัฐอเมริกา ลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี ส่วนความกังวลในการเข้าไปตรวจสอบอาวุธนิวเคลียร์ ของสหประชาชาติ ยังไม่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเพราะมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ยังไม่มีผลต่อการค้าทั่วไปของประเทศอิหร่าน
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และติดตามสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เป็นในส่วนของน้ำมันเบนซินเป็นหลัก ขณะที่ดีเซลยังปรับขึ้นไม่สูงมากนัก ซึ่งสามารถรณรงค์ให้ประชาชนหันไปใช้แก๊สโซฮอล์มากขึ้น เพราะราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นนี้เฉพาะในส่วนของน้ำมันเบนซิน แต่แก๊สโซฮอล์ไม่ได้ปรับราคาขึ้นไปด้วย ทำให้แก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 3.30 บาทต่อลิตร ซึ่งเชื่อว่าจะจูงใจให้รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถเติมแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาน้ำมันแพง และช่วยประเทศชาติประหยัดงบประมาณในการนำเข้าน้ำมันอีกทางหนึ่ง
อนึ่ง โครงสร้างราคาน้ำมันตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2550 โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 นั้น ในส่วนของเนื้อน้ำมัน จะอยู่ที่ระดับ 19.40 บาทต่อลิตร รวมกับค่าการตลาดอีกประมาณ 1 บาทต่อลิตรเป็น 20.40 บาทต่อลิตร ส่วนที่เหลือ คือภาษีต่าง ๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และที่สำคัญคือเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับ 3.46 บาทต่อลิตร อาจจะมีส่วนสำคัญทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น แต่จะเป็นต้องดำเนินการเพื่อชดเชยหนี้กองทุนน้ำมัน จำนวน 82,000 ล้านบาท จากการตรึงราคาน้ำมันไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ได้ทยอยใช้หนี้หมดไปจำนวนมากแล้ว โดยเหลือเพียง 27,000 ล้านบาท และคาดว่าจะชำระหนี้ได้หมดภายในต้นปี 2551

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ