“สลัดทูน่าแกล้มแครอท” อาหารต้าน “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)”

ข่าวทั่วไป Sunday May 20, 2007 11:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการเป็น “ภาวะก่อนเบาหวาน” หรือภาวะที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันยังมีหลายคนกำลังเป็นภาวะนี้อยู่ โดยที่ยังไม่รู้ตัว และกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเป็นโรคหรือผ่าตัดแล้วนั่นเอง
ศ.พญ.วรรณี นิธิยานันท์ อุปนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากงาน “เบาหวานห่างไกล ใส่ใจไปกับเมอร์ค” ว่าคนไทยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและ “ภาวะก่อนเบาหวาน”มากขึ้น เหตุเพราะสิ่งแวดล้อมและวีถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พบว่าคนไทยมีผู้เสี่ยงภาวะก่อนเบาหวานสัดส่วนเป็น 10% ของประชากร ขณะที่ตัวเลขทั่วโลกพบว่ามีกว่า 10-30% และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดเมอร์ค ประเทศไทยร่วมกับสมาคมโรคเบาหวานฯ จึงจัดกิจกรรม “เบาหวานห่างไกล ใส่ใจไปกับเมอร์ค” เพื่อรณรงค์ให้คนไทยร่วมใจลดอัตราการเกิดโรคเบาหวาน โดยเฉพาะ “ภาวะก่อนเบาหวาน” ที่พบว่ากำลังเป็นภัยคุกคามคนทั่วโลก
หากจะกล่าวถึงโรคเบาหวานเชื่อได้ว่าคนส่วนใหญ่รู้แล้วว่า โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ขณะที่“ภาวะก่อนเบาหวาน” นี้ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก เนื่องจากคนที่ไม่ใส่ใจสุขภาพจะละเลยสุขภาพของตัวเองและจะมารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเป็นโรคหรือผ่าตัด
“ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) คือ ภาวะที่ยังไม่ได้เป็นเบาหวานจริงๆ หรือคนที่มีระดับน้ำตาลสูงบางจุด เช่น น้ำตาลสูงเฉพาะหลังอาหาร สามารถบอกได้หากทดสอบด้วยการดื่มสารละลายกลูโคสหรือทดสอบด้วยการดูระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร โดยคนปกติจะมีระดับน้ำตาลต่ำกว่า 100-110 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (ขึ้นกับใช้ของ WHOหรือของอเมริกา) ส่วนคนที่มีระดับน้ำตาลอยู่ที่ 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าอยู่ในภาวะก่อนเบาหวานหรือเรียกว่าระดับน้ำตาลขณะอดอาหารสูงกว่าปกติ ส่วนคนที่น้ำตาลอยู่ที่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรหรือมากกว่าถือว่าเป็นโรคเบาหวาน” ศ.พญ.วรรณีกล่าว
สำหรับแนวทางป้องกันนั้น เบื้องต้นคือเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการ โดยเมนูอาหารที่จะนำเสนอต่อผู้ที่เสี่ยงกับการเป็นภาวะก่อนเบาหวาน ได้แก่ “สลัดทูน่ากับแครอท” และ “ปอเปี๊ยะสด” ซึ่งผู้ที่นำเสนอและสาธิตวิธีการทำเมนูอาหารนี้ในงาน “เบาหวานห่างไกล ใส่ใจไปกับเมอร์ค” ได้แก่ “พล ตัณฑเสถียร”
“สลัดทูน่ากับแครอท
เมนูแรกคือ “สลัดทูน่ากับแครอท” การที่เลือกเมนูนี้ขึ้นมา เนื่องจากส่วนประกอบหลักอย่างทูน่าและแครอทมีคุณประโยชน์มากมายหลายประการ อาทิ ในแครอทมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง และช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดีขึ้น ส่วนทูน่าจะช่วยในเรื่องการบำรุงสมอง เป็นต้น
ส่วนประกอบสำหรับเมนูนี้ คือ นำแครอทหั่นเป็นแท่ง เตรียมกระเทียมสับ หอมใหญ่สับ น้ำมันดอกทานตะวัน ทูน่าในน้ำแร่ จากนั้นเตรียมส่วนผสมน้ำสลัด ประกอบด้วย น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชูที่ทำจากไวน์ขาว มัสตาร์ด และซอสถั่วเหลือง
วิธีการทำเมนูสลัดทูน่าและแครอทสูตรของคุณพลนี้ ก่อนอื่นนำแครอทกระเทียม หอมใหญ่ใส่ไมโครเวฟกับน้ำมันดอกทานตะวัน เพื่อทำให้สุกโดยยังกรอบอยู่และไม่มีกลิ่นผัก เมื่อสุกแล้วนำส่วนผสมทุกอย่างมารวมกันบนจานที่ตกแต่งด้วยผักมิสซุน่า จากนั้นราดด้วยน้ำสลัดที่ผสมแล้ว ปิดด้วยทูน่าในน้ำแร่ด้านบน โรยด้วย พายนัท เกลือ และพริกไทยนิดหน่อยก็หอมชวนทานแล้ว
“ปอเปี๊ยะสด”
เมนู “ปอเปี๊ยะสด” เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานผักหรือคนที่ไม่อยากมีน้ำหนักมากเกินไป เมนูนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้
ก่อนอื่นเตรียมส่วนผสม ดังนี้ กุ้ง แผ่นแป้งสด (ใบเมี่ยงญวน) ซาลารี เห็ดเข็มทอง ผักเรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค จากนั้นเตรียมส่วนผสมของน้ำจิ้ม ได้แก่ ซอสญี่ปุ่น น้ำส้มสายชู น้ำมันพริก เมื่อเตรียมส่วนประกอบทุกอย่างครบถ้วนแล้วมาเริ่มขั้นตอนแรกคือ นำแผ่นแป้งสดแช่น้ำไว้สักครู่ (นานไปไม่ดี) นำทุกอย่างที่หั่นเป็นแท่ง วางลงไปบนแป้งครึ่งวงกลมห่อให้สวยงามทาคู่กับน้ำจิ้ม โดยการนำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมกันในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง จากนั้นคุณก็จะได้เมนูเพื่อสุขภาพโดยปราศจากน้ำตาลและรสชาติอร่อยถูกใจทุกคนในครอบครัว
ทั้งนี้นอกจากการทานอาหารที่ถูกต้องแล้ว การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น การเดินเร็ว การวิ่ง การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน เป็นต้น ก็สามารถช่วยให้คนเรามีสุขภาพกายและใจดีขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนของเลือด ช่วยคลายเครียดและทำให้นอนหลับสบายอีกด้วย
ข้อมูลที่มา: จากงานกิจกรรม “เบาหวานห่างไกล ใส่ใจไปกับเมอร์ค” ของบริษัทเมอร์ค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาล สถาบัน และอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย โดยเมอร์ค เป็นบริษัทที่เน้นในเรื่องของความเอาใจใส่เป็นหลักในการทำธุรกิจ และให้ความสำคัญกับผู้มีบทบาทสำคัญของบริษัท 4 กลุ่มหลัก อันได้แก่ พนักงาน ลูกค้า สังคมไทย และผู้ถือหุ้น ก่อตั้งในประเทศไทย เมื่อปี 1991 ในรูปแบบบริษัทร่วมทุนระหว่าง Merck KGaA (เยอรมนี) และบี กริม (ประเทศไทย) เมอร์ค ประเทศไทย มีพนักงานทั้งหมดกว่า 150 คน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยมีศูนย์กระจายสินค้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์:
ศรุตยา มหากายี (โอ๋) โทร.0-2204-8224, 089-665-6819
วรญา มณีวรรณ (เพชร) โทร. 0-2204-8229, 084-004-0636
พรชนันท์ มงคลกุล (กิฟท์) โทร.0-2204-8223, 081-755-1105
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ