กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
- บริษัทขนส่งรายแรกที่เปิดบริการขนส่งพัสดุภัณฑ์รูปแบบใหม่ล่าสุดที่ช่วยย่นระยะเวลา และลดค่าใช้จ่ายสำหรับการขนส่งด่วนได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ -
ทีเอ็นที เอ็กซเพรส ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุด่วนชั้นนำของโลก เปิดตัวบริการขนส่งพัสดุแบบเร่งด่วนพิเศษที่สุด (Emergency Express Service) ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นบริการที่ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า จะสามารถส่งสินค้าที่เร่งด่วนไปยังต่างประเทศกับสายการบินเที่ยวถัดไปได้ทันทีเพื่อให้ทันเวลาที่ผู้ใช้บริการกำหนด ด้วยการให้บริการรับ-ส่งตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน การส่งแบบเร่งด่วนนี้เปิดให้บริการในทุกเมืองสำคัญในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย ฮ่องกงและญี่ปุ่น
นวัตกรรมการบริการรูปแบบใหม่จากทีเอ็นทีนี้ เป็นการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันของการขนส่งแบบเร่งด่วน ที่ต้องการย่นระยะเวลาในระบบการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าในคลังและสินค้าที่ไม่ใช้แล้วได้เป็นอย่างดี ซึ่งความต้องการลักษณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องนับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด รวมถึงตัวอย่างเพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถเน่าเปื่อยได้ก็เป็นอีกหนึ่งในตัวอย่างของอุตสาหกรรมที่ต้องการการบริการที่รวดเร็วตลอดเวลา
ประเทศในเอเชียมีความรีบเร่งในการดำเนินธุรกิจ การบริการแบบเร่งด่วนและตรงเวลาจึงกลายเป็นบริการที่ผู้ประกอบการมีความต้องการสูง ในภูมิภาคเอเชียตอนนี้ บริการขนส่งแบบเร่งด่วนเป็นหนึ่งในบริการที่เติบโตมากที่สุด ด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ในการขนส่งในปีที่ผ่านมา ศักยภาพในการเติบโตของการขนส่งแบบเร่งด่วนพิเศษ (Emergency Express Service) จึงมีสูงมาก ซึ่งในเอเชีย การบริการนี้กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญเพื่อไปถึงจุดมุ่งหมายของทีเอ็นที ซึ่งคือการก้าวไปเป็นผู้นำอันดับที่หนึ่งในตลาดและให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วในแถบภูมิภาคนี้
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฮ-เทคและธุรกิจการบินเป็นกิจการที่มักต้องใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูง และมักรวมกันอยู่ในศูนย์กระจายสินค้าใหญ่ ซึ่งหลายบริษัทจำเป็นต้องพึ่งพาพนักงานของตนเองในการขนส่งสินค้าแบบเร่งด่วนด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อโดยสารเครื่องบินเที่ยวถัดไป ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ซึ่งเครื่องมือทางการแพทย์มีมูลค่าสูงและยารักษาที่จำเป็นมักเป็นสิ่งที่ต้องการอย่างเร่งด่วนอยู่เสมอ
สำหรับธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จ ความล่าช้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นและความรวดเร็วนั้นนับเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง หนึ่งในลูกค้าที่สำคัญรายหนึ่งของทีเอ็นที เคยจำเป็นต้องส่งพนักงานกว่า 150 คนต่อเดือน เพื่อบินไปต่างประเทศเพื่อขนส่งอะไหล่ของเครื่องใช้ไฮ-เทคภายในทวีปเอเชีย นั่นทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายถึงประมาณ 46 ล้านบาทต่อปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งด้วยบริการขนส่งแบบเร่งด่วนพิเศษ (Emergency Express Service) ของทีเอ็นทีนี้ จะมีค่าใช้จ่ายถูกลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ด้วยคุณภาพของผลลัพธ์ที่มีค่าเท่ากัน
การบริการขนส่งแบบเร่งด่วนพิเศษ (Emergency Express Service) ในทวีปเอเชีย ทีเอ็นทีมีทีมบุคลากรที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อรับ-ส่งพัสดุที่ต้องการการขนส่งที่เร่งด่วนที่สุดในทุกสถานการณ์
ทีเอ็นทีสามารถจัดรูปแบบการจัดส่งแบบเร่งด่วนพิเศษได้โดยการเลือกขนส่งผ่านเที่ยวบินรอบถัดไปได้ตามความต้องการทันที ซึ่งทำให้การส่งของผ่านการขนส่งแบบเร่งด่วนพิเศษ (Emergency Express Service) สามารถไปถึงเมืองใหญ่ที่สำคัญในแต่ละประเทศภายในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในเวลาระหว่าง 6 ถึง 16 ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของเวลาในการขนส่งด่วนแบบธรรมดาที่ต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง
การบริการรูปแบบใหม่นี้จะขยายความสามารถของเครือข่ายการขนส่งภายในภูมิภาค และเป็นการรับประกันถึงประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการอย่างเร่งด่วนของลูกค้าได้ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นในนาทีสุดท้ายหรือเมื่อใดก็ตาม และการขนส่งแบบเร่งด่วนพิเศษ (Emergency Express Service) นี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่างให้กับทีเอ็นทีในทวีปเอเชีย เพราะทีเอ็นทีมีประสบการณ์ที่กว้างขวางในการมอบผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ด้วยการบริการที่คุ้มค่าและรวดเร็วกว่าในการขนส่งแบบเร่งด่วน ผู้บริโภคสามารถคงสภาพสินค้าคงคลังให้ลดน้อยลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานเอกสารเพราะสามารถจัดการได้จากผู้ให้บริการขนส่งเร่งด่วนพิเศษเพียงรายเดียว ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถมีเวลาบริหารจัดการกิจการของตนเองในด้านอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อมูลสำหรับบรรณาธิการ
1. ทีเอ็นที เอ็กซเพรส หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจชั้นนำระดับโลก โดยให้บริการส่ง เอกสารธุรกิจ พัสดุภัณฑ์ และสินค้า รวมกันประมาณ 4.1 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ ไปยังจุดหมายกว่า 200 ประเทศ ผ่านเครือข่ายคลังพัสดุ ศูนย์กระจายสินค้า และศูนย์คัดแยกสินค้ากว่า 1,200 แห่ง มียานพาหนะใช้ในการ ขนส่ง 23,400 คัน และเครื่องบิน 44 ลำ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการที่มีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในการให้บริการขนส่งด่วนทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดินมากที่สุดในยุโรป
2. ทีเอ็นที เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าทั่วไปชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ทีเอ็นทียังมีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในยุโรป และเอเชีย และกำลังขยายการปฏิบัติงานไปยังทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายต่างๆ ทีเอ็นที เปิดให้บริการอยู่ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 139,000 คนปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลก ในปี 2549 ทีเอ็นที รายงานยอดรายรับที่ 10.1 พันล้านยูโร และเงินรายรับจากปฏิบัติการที่ 1,276 ล้านยูโร ทีเอ็นที จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอัมสเตอร์ดัมส์ และนิวยอร์ค นอกจากนั้น ทีเอ็นทียังเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับโครงการเพื่อสังคมต่างๆ โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการอาหารโลก และโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านความหิวโหยของผู้ยากไร้และมลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
3. ศูนย์ควบคุมความปลอดภัยและบังคับการแห่งเอเชีย หรือ TNT’s Asia Security Control and Command Centre (ASCCC) ตั้งอยู่ในเมืองพีทาลิง จาย่า ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ในการจัดส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง
ต้องการข้อมูลหรือรูปภาพประกอบเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปริตตา สงเคราะห์ราษฎร์ หรือ นัดดา สุทธิโก
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 02 653-2717-9
แฟกซ์ 02 653-2720
อีเมล์ parritta@spark.co.th / natda@spark.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net