กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--ทีวี ไดเร็ค
ทีวี ไดเร็ค ยิ้มรับผลประกอบการปี 53 ประสบผลตามเป้า มั่นใจพร้อมโตเพิ่ม รับปีกระต่ายอีกกว่า 2 พันล้าน เดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมพัฒนาช่องทางเดิมที่หลากหลายเพิ่มช่องทางใหม่ด้วยกลยุทธ์ Long-tail Strategy
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด เปิดเผยว่า “ผลประกอบการปี 53 นับว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,400 ล้าน ก็สามารถทำยอดได้เป้าหมายถึง 1,414 ล้าน คิดเป็นสัดส่วนเติบโตขึ้นจากปีก่อน 42 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้กลยุทธ์หลัก MCM (Multi-Channel Marketing) ด้วยการประสานช่องทาง Call Center, TV Marketing, Catalog Sale, Digital Marketing และ ร้านค้าปลีกและค้าส่งเข้าด้วยกัน โดย ทีวี ไดเร็ค ได้มีการปูพื้นฐานของช่องทางเหล่านี้มากว่า 3 ปี ส่งผลให้ในปีนี้ได้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและมีการพัฒนาของช่องทางเหล่านี้ได้อย่างยั่งยืนมั่นคง”
“สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้จะเน้นกลยุทธ์ Long-tail ด้วยการทำการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเล็กๆ แต่มากกลุ่ม อีกทั้งสื่อสารการตลาดยังเอื้ออำนวยทำให้ผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนไพรม์ไทม์ (Prime Time) เป็นมายไทม์ (My Time) ได้ ด้วยสื่อเฉพาะเจาะจงกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสื่ออินเตอร์เน็ตที่เข้าไปหาได้ตลอดเวลา หรือช่องทีวีที่เฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น ช่องกีฬา ช่องหนัง ช่องหุ้น ช่องรถยนต์ หรือช่องความบันเทิงที่มีสาระแตกต่างกันออกไปเพื่อสอดรับกับผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ สำหรับในปีนี้ช่องทีวีดาวเทียมที่มีมากกว่า 200 ช่อง จะยังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อธุรกิจทีวีซึ่งจะทำให้โอกาสในการขายทางทีวีมีมากยิ่งขึ้นต่อไป”
“ในปี 54 ทีวี ไดเร็ค ได้ขยายสินค้าแบรนด์เพิ่มมากขึ้น อาทิ ป้าหวัง (Bawang) แชมพูสกัดจากสมุนไพรจีนโบราณที่ได้รับความนิยมในSectorสมุนไพรเป็นอันดับหนึ่งในประเทศจีน, เครื่องประดับไข่มุก มิซากิ(Misaki) ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากประเทศโมนาโค ด้วยสไตล์การออกแบบที่ไม่เหมือนใครเน้นจับกลุ่มระดับกลางราคาไม่สูง, แว่นอีเกิ้ล อายส์ (Eagle Eyes) ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์การ นาซ่า (NASA) ประเทศสหรัฐอเมริกามาให้เลือกมากกว่า 70 รุ่น พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องนอนดอร์มิโอ (Dormeo) นวัตกรรมใหม่ออกแบบโดยประเทศอิตาลีด้วยคุณสมบัติพิเศษประกอบด้วย Memory Form และ Eco-Cell ที่ปรับสมดุลให้กับร่างกาย ทำให้คุณภาพการนอนดียิ่งขึ้น สินค้าดังกล่าวจะมุ่งเน้นในการสร้างสีสันในช่องค้าปลีก ค้าส่ง ที่จะเป็นเป้าหมายใหญ่ในปี 2554 นี้”
นายทรงพล กล่าวเพิ่มเติม ถึงช่องทางจัดจำหน่ายว่า “คอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ของเราจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยการรับพนักงานจาก 450 คน เพิ่มขึ้นเป็น 850 คน เพื่อเข้ามาพัฒนาฐานข้อมูลลูกค้าของทีวี ไดเร็ค ที่มีมากกว่า 1 ล้านรายชื่อ ด้านสื่อโทรทัศน์ในปีนี้จะเน้นความหลากหลายของช่องโฮมช้อปปิ้งจากต่างประเทศทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน พร้อมส่งเสริมช่องโฮมช้อปปิ้งไทยและสินค้าไทยให้มีศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นและพร้อมส่งออก ด้านการตลาดดิจิตอล (Digital Marketing) น้องใหม่ไฟแรงจะมีการพัฒนาให้เป็น fully Integrate ด้วย Social Network, Travelling Portal, Mobile Marketing และ Youtube Channel และในด้านธุรกิจค้าปลีก เตรียมขยายสาขาอีกกว่า 30 แห่ง สุดท้ายธุรกิจค้าส่งจะดำเนินการรุกโมเดิร์นเทรดเพิ่มจุดขายกระจายสินค้าอย่างเต็มที่”
“ในด้านการลงทุนร่วม 100 ล้าน แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ลงทุนสร้างสตูดิโอใหม่กว่า 30 ล้านบาท เพื่อพร้อมรองรับการผลิตรายการโทรทัศน์แบบ Live Show ที่จะเริ่มดำเนินการกลางปี 2554 ส่วนที่ 2 อีกกว่า 70 ล้าน เป็นงบขยายอาคารสำนักงานเพื่อรองรับคอลเซ็นเตอร์ และส่วนที่ 3 อีก 10 ล้าน สำหรับการปรับปรุงการจัดส่งสินค้าและคลังสินค้า เพิ่มจำนวนรถจัดส่ง เพื่อส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าเร็วยิ่งขึ้น”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค ย้ำทิ้งท้ายว่า “สำหรับเป้าการเติบโตในปี 2554 เรามองเห็นศักยภาพของเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะเติบโตในส่วนไพรเวทคอนซัมชั่น (Private Consumption) ที่สูงถึง 5 เปอร์เซ็นต์ บริษัทจึงมั่นใจว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัดจะมีมากเพียงพอที่จะส่งผลให้บริษัทเติบโตได้ในอัตราเดียวกันกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นเป้าหมายที่ 2011 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมการลงทุนในภูมิภาคอินโดไชน่ารับนโยบายไร้พรมแดนของอาเซียนอีกด้วย” นายทรงพล กล่าวอย่างมั่นใจ