โบอิ้งให้ข้อมูลล่าสุดเครื่องบิน 747-8 ผลิตภัณฑ์ยุทธศาสตร์ที่ทำได้ตามกำหนด

ข่าวทั่วไป Monday January 22, 2007 15:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
วันนี้ บริษัทโบอิ้ง BA ได้จัดบรรยายสรุปข้อมูลล่าสุดของเครื่องบินตระกูล 747-8 ที่กรุงเทพฯ และตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของ 747-8 ในยุทธศาสตร์ตลาดเครื่องบินขนาด 400-500 ที่นั่ง
มร. แรนดี้ ทินเซ็ธ รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการ สำหรับแผนงานผลิตเครื่องบินตระกูล 747 กล่าวว่า “สาระสำคัญยุทธศาสตร์โบอิ้งล่าสุด คือนำเครื่องบินรุ่นที่เหมาะมากคือ 747-8 Intercontinental ขนาด 467 ที่นั่ง มาบุกช่องว่างตลาดในส่วน 200 ที่นั่งระหว่างรุ่นโบอิ้ง 777-300ER กับรุ่นแอร์บัส A380”
โบอิ้งคอมเมอร์เชียลแอร์เพลนส์ ได้รวมเครื่องบินตระกูล 747-8 ไว้ในรายงานการศึกษาแนวโน้มตลาดล่าสุด Current Market Outlook เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทได้คาดว่าเอเชียแปซิฟิกจะมีความต้องการซื้อเครื่องบินพาณิชย์ใหม่ประมาณ 7,900 ลำ มูลค่า 930,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (33,480,000 ล้านบาท) ในช่วง 20 ปีข้างหน้า ซึ่ง 570 ลำในจำนวนนี้จะเป็นเครื่องบินขนาด 747 ขึ้นไป และเอเชียแปซิฟิกจะยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดนอกอเมริกาเหนืออย่างเหนียวแน่นในช่วงดังกล่าว
โบอิ้งได้เปิดตัวเครื่องบินตระกูล 747-8 คือรุ่นโดยสาร 747-8 Intercontinental และรุ่นขนส่งสินค้า 747-8 Freighter ในเดือนพฤศจิกายน 2548 โดยมีสองสายการบินประเดิมสั่งซื้อรุ่น 747-8F จำนวน 18 ลำ คือ คาร์โก้ลักซ์แอร์ไลน์ส 10 ลำ และนิปปอนคาร์โก้แอร์ไลน์ส NCA อีก 8 ลำ ซึ่งปัจจุบันโบอิ้งได้รับคำสั่งซื้อ 747-8 แล้วถึง 78 ลำคือ รุ่นขนส่งสินค้า 747-8F 54 ลำ และรุ่นโดยสาร 747-8 Intercontinental 24 ลำ
มร.ทินเซ็ธ กล่าวว่า “ลุฟต์ฮันซ่าเป็นสายการบินแรกที่ประเดิมสั่งซื้อเครื่องบินโดยสาร 747-8 Intercontinental ซึ่งโบอิ้งอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายรายที่สนใจเครื่องบินรุ่น 467 ที่นั่งนี้
โบอิ้งประสบความสำเร็จในขั้นตอนการพัฒนามาโดยตลอด โดยได้สรุปผังอุปกรณ์รุ่น 747-8F ได้ตามกำหนดเดือนตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา, จะประกอบเครื่องบินให้กับคาร์โก้ลักซ์แล้วเสร็จและเริ่มบินทดสอบในปี 2551, จะได้ใบรับรองและเริ่มบินให้บริการในปี 2552
มร.ทินเซ็ธ กล่าวว่า “บริษัทจะสรุปผังอุปกรณ์เครื่องบินรุ่น 747-8 Intercontinental ได้ตามกำหนดในปี 2550 และมีกำหนดเริ่มนำขึ้นบริการในปี 2553”
สายการบินต่างๆ จะมีข้อได้เปรียบจากการใช้เครื่องบินรุ่น 747-8 Intercontinental และ 747-8F คือจะมีอัตราผลกำไรเพิ่ม เนื่องจากมีรายได้มากสุดแต่มีต้นทุนการบินต่ำสุดในกลุ่มเครื่องบินใหญ่ รวมทั้ง 747-8 ยังใช้เทคโนโลยีและวัสดุล้ำยุคจากเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliner ซึ่งรวมถึงเครื่องยนต์ใหม่ และเมื่อรวมกับแบบปีกใหม่และลำตัวใหม่ที่ลู่ลมขึ้นของ 747-8 เอง ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ 747-8 เป็นจัมโบเจ็ตที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุด บินเงียบที่สุด จึงมีรายได้มากขึ้นในขณะที่สามารถลดปริมาณไอเสีย และลดเสียงรบกวนชุมชนข้างเคียงได้ไปพร้อมกัน เครื่องบินตระกูล 747-8 สามาถใช้สนามบินเกือบ 200 แห่งที่สามารถรองรับเครื่องบินรุ่นปัจจุบัน 747-400
ขณะนี้ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีฝูงบินซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินโบอิ้ง จำนวน 46 ลำ ซึ่งรวมถึงรุ่น 747-400 จำนวน 18 ลำ และรุ่น 747-300 จำนวน 2 ลำ.
แถลงข่าวในนาม : บริษัท โบอิ้ง คอมเมอร์เชียล แอร์เพลนส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม : จุไรกาญจน์ ตระกูลเวช ( juraikarn.trakulvech@ogilvy.com )
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 02 205 6611, 02 205 6000
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ