กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--สหมงคลฟิล์ม
เป็นคนปั้นแก๊งสามช่า หม่ำ-เท่ง-โหน่ง มือขวาของ เสี่ยตาปัญญา รับผิดชอบในงานผลิตภาพยนตร์ที่จับมือร่วมกับสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล รวมทั้งเป็นหัวเรือใหญ่ของ “หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม” กำกับ โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง จนทะลุร้อยล้านมาแล้วและรับผิดชอบดูแลการผลิตในฐานะโปรดิวเซอร์ของ “เท่งโหน่งจีวรบิน” หนังฮาเรื่องล่าสุดที่กำกับโดย เท่ง เถิดเทิง และสมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ ผู้กำกับเลือดไทยมือตัดต่อระดับฮอลลีวู้ด (มีผลงานอย่าง THE GREEN MILE และSTREET FIGHTER : THE LEGEND OF CHUN LEE) มั่นใจในความสนุกสนานของ “จีวรบิน” ที่รับรองว่าไม่เพียงสร้างความแตกต่างแต่เชื่อมั่นว่ามีหลายๆ อย่างในหนังที่คนดูไม่เคยเห็นมาก่อน แถมการันตีถึงความตั้งใจและทุ่มเทเต็มที่ของผู้กำกับนับตั้งแต่ได้ยินไอเดียครั้งแรกจากปากของ เท่ง เถิดเทิง จนกระทั่งภาพยนตร์ถ่ายทำจนปิดกล้องและกำลังจะเข้าฉายในวันที่ 3 ก.พ. กับโปรแกรมทองต้อนรับตรุษจีน
“พูดได้ว่าการทำหนังเท่งโหน่งถือว่าเป็นเรื่องสนุกทั้งสำหรับทีมงาน และนักแสดง เพราะว่าได้ทำงานกับคนที่สนุกสนานทั้งในชีวิตจริงและบนชีวิตในโลกภาพยนตร์ของเขา แต่ว่าในความสนุกก็มีความยากอยู่เพราะว่าเขาอยู่ในรายการของเวิร์คพอยท์ฯหลายๆ รายการ ทั้งชิงร้อยชิงล้าน, ระเบิดเถิดเทิง ฯลฯ เขามีคาแรคเตอร์อะไรต่างๆ ที่เล่นมาเยอะมาก มันก็เลยกลายเป็นโจทย์ยากที่ว่าเราจะทำอะไรในสิ่งที่คนยังไม่เคยเห็น หรือการที่มีแฟนๆของเขาคอยดูอยู่ว่าจะมีอะไรบ้าง เหมือนก่อนหน้านี้ที่เราเคยทำ นักเลงภูเขาทอง เป็นหนังย้อนยุคแต่เป็นนักเลง พอนึกโจทย์ใหม่ขึ้นมาก็คิดว่าจะเอาเรื่องอะไรกันดี ก็เลยคิดเยอะ คิดอยู่หลายปี จนมาลงตัวที่โปรเจ็คต์เท่งโหน่งจีวรบินนี่แหละเรื่องของพระที่จะต้องผจญภัยอยู่บนเครื่องบิน และต้องผจญภัยไปกับพวกโจร มีเรื่องพลิกผันพิสดารไปมา ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหนังอีกเรื่องที่คนดูอาจไม่เคยเห็นหนังอะไรแบบนี้มาก่อน คือมีหลายๆแง่มุมที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคุณเท่งที่เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำมานาน เพราะฉะนั้นเขาจะทุ่มเท ทั้งความคิด ทั้งแรงงานทุกอย่าง ทั้งวิธีเล่น ทั้งวิธีกำกับเพื่อหนังเรื่องนี้เลย รวมทั้งคิดเรื่อง การกลั่นกรองทุกอย่าง แม้แต่ทีมบทที่ร่วมทำงานด้วยกันต่างคนต่างคิดมาแล้วเอามาใส่ มันน่าจะมีส่วนผสมที่ทำให้หนังออกมาดูสนุกสนานมาก คือเราไม่ได้คิดว่าเราจะขายหนังตลกขำอย่างเดียวแล้ว คือเราอยากจะขายอย่างอื่นด้วย ถ้าได้เห็นโปรดักชั่นจะรู้เลยว่าเราลงทุนไปกับโปรดักชั่นใหญ่โตมาก
สำหรับเรื่องนี้เราพยายามทำให้ได้ดีในทุกแง่เลยทั้งภาพ ทั้งเรื่อง ทั้งมุก ทั้งอะไรทุกอย่าง คือเอาหมดอะไรที่ทำแล้วจะดีกับหนังเรื่องนี้ บางทียอมถ่ายดึกดื่นเที่ยงคืน ยอมเสียตังค์เพิ่มเติม หรือยอมอะไรอีกตั้งเยอะแยะเพื่อให้พี่เท่งพอใจในหนังเรื่องนี้ นอกเหนือจากการที่เราสร้างหนังขึ้นมาเรื่องหนึ่ง เราเองก็อยากทำให้คนดูได้มีความสุขกับเรื่องที่เราทำ เพราะฉะนั้นในแง่ของคนทำมองโดยรวม คนทำก็อยากทำในสิ่งที่คนดูอยากดู อย่างตัวคุณเท่งเองเวลาเขาคิดอะไรมาแล้วเขาจดไว้ แล้ววันหนึ่งเขาก็เอาเรื่องหรือมุกที่เขาคิดขึ้นมาหรือที่จดไว้ลองไปเล่าให้ผู้คนฟัง พวกคนฟังทั้งหลาย แล้วเขาก็จะเช็คหรือเทสต์ว่าอันนี้คนชอบหรืออันไหนคนไม่ชอบ อันไหนที่คนไม่ชอบจะเติมอย่างไร หรืออันไหนที่คนชอบอยู่แล้วจะเติมอย่างไรให้คนชอบยิ่งขึ้นไปอีก จนทั้งหมดถูกรวมอยู่ในหนังเรื่องนี้”