กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 19,650 - 19,750
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,352
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 31.86 — 31.90
- GFG11 Hi- Low 19,740— 19,630 ปิดที่ 19,650
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,353.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,325.40 - 1,356.60 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่าการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในอียิปต์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนหลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรไปจนสิ้นสุดโครงการในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดบวก 20.29 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 12,062.26 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.07 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 1,307.10 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.32 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,753.88 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานยอดขายที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐ พร้อมกับจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 32 เซนต์ ปิดที่ 90.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.00 - 92.05 ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงไม่มากนักเพราะตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซื้อเข้า 2.12 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,227.15 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,229.28 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้ตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นเหนือระดับเป้าหมายของอีซีบีก็ตาม ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวอย่างเหนือความคาดหมาย ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.22% แตะที่ 1.3635 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3803 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3630 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.570 เยน จากระดับ 81.550 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.57 ต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.83-30.88บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัวจากการเปิดตลาดในตอนเช้า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.86-30.90บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 0.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
- เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมผู้สื่อข่าวแห่งชาติของสหรัฐที่นครวอชิงตัน ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้ พร้อมระบุว่า สหรัฐจำเป็นจะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อลดปัญหาด้านการคลังในระยะยาว "สหรัฐยังคงเผชิญปัญหาท้าทายด้านการคลังในระยะยาว ซึ่งไม่ใช่ปัญหาระยะสั้นหรือปัญหาชั่วคราว ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9% ของตัวเลขจีดีพี เพิ่มขึ้นจากระดับเฉลี่ยก่อนหน้านั้นที่ 2% ของจีดีพี ซึ่งการขาดดุลงบประมาณที่สูงอย่างมีนัยสำคัญเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของสถานะการคลัง อันเป็นผลมาจากการที่คณะทำงานรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ใช้มาตรการที่แข็งแกร่งพอ" เบอร์นันเก้กล่าวเบอร์นันเก้ยังกล่าวด้วยว่า แม้เศรษฐกิจและตลาดการเงินเริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะที่ดีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่ยอดขาดดุลงบประมาณยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น และงบประมาณการใช้จ่ายในโครงการสวัสดิการเพื่อสุขภาพสำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) ประมาณการว่า รัฐบาลกลางสหรัฐจะมียอดขาดดุลงบประมาณปี 2554 สูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ และ 6.65 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2555 เนื่องจากการใช้จ่ายในโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพ ซึ่งรวมถึงโครงการ Medicare และ Medicaid ซึ่งเป็นระบบประกันสุขภาพที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุนสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค.ของสหรัฐปรับตัวลดลง 42,000 ราย แตะระดับ 415,000 ราย และดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 59.4 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 57.1 จุดของเดือนธ.ค.ปี 2553 ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ
- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 59.4 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 57.1 จุดของเดือนธ.ค.ปี 2553 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ส่วนดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ
- ธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้ตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนยังสูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางก็ตาม โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 27 เดือน และสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
3 - 4 กุมภาพันธ์2554
วันพฤหัสบดี ? Unemployment Claims 454K 420K 415K
? Nonfarm Productivity 2.3% 2.1% 2.6%
? Unit Labor Costs -0.1% 0.4% -0.6%
? ISM Non-Manufacturing PMI 57.1 57.2 59.4
? Factory Orders 0.7% -0.2% 0.2%
? Fed Chairman Bernanke Speaks - - -
? ECB Press Conference - - -
วันศุกร์ ? Unemployment Rate 9.4% 9.5%
? Non-Farm Employment Change 103K 138K
? ECB President Trichet Speaks - -