กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--สหมงคลฟิล์ม
เป็นอีกหนึ่งสีสันแห่งความสนุกสนานที่ถูกระดมมาเติมเต็มอย่างไม่มีกั๊กสมความตั้งใจของ ผกก. เท่ง เถิดเทิง เลยทีเดียวสำหรับ “เท่งโหน่งจีวรบิน” เพื่อให้เป็นความบันเทิงที่ขนมาต้อนรับเทศกาลปีใหม่ของพี่น้องชาวไทยจีน ซึ่งกล้าพูดได้ว่าเป็นหนังตลกที่ไม่ไร้สาระสำหรับทุกคนในครอบครัวจริงๆ เลย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อ“เท่งโหน่ง”มาเจอกันทั้งทีจะขาดพี่ใหญ่ของแก๊งสามช่า นายกสมาคมคนรักครอบครัว และเป็นพี่ใหญ่แห่งแก๊งสามช่าอย่าง หม่ำ จ๊กมก ไปได้อย่างไร
“คือในเรื่องของภาพยนตร์ ถ้าโหน่งเท่งติดต่อมา แล้วยิ่งเป็นหนังของเขาด้วยแล้ว เป็นเรื่องสบายๆ คือไม่ต้องห่วงอะไรมาก แค่บอกสิ่งที่คุณเท่งต้องการแค่นิดเดียว เราก็เล่นได้เลย เพราะพวกเราเหมือนรู้ทางกันอยู่แล้ว อย่างซีนที่ผมต้องมาเข้าฉากกับคุณเท่งคุณโหน่งคุณเต๋า จะเห็นว่าไดอาล็อคมีไม่เยอะ นิดเดียวแท้ๆ แต่ตอนถ่ายล่อกันไปเกือบครึ่งชั่วโมง ก็เพราะต่างคนต่างเติม ใส่กันไปอยู่นั่นแหละทั้ง 3 คน อย่างผมกับพี่สมเล็ก ก็เล่นด้วยกันมาหลายเรื่องเหมือนกัน ล่าสุดก็เพิ่งวงษ์คำเหลา แล้วก็คุณเต๋าสมชาย เต๋าเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่มือปืนโลกพระจัน โอ้! นานมาก หรือทั้งพี่สมเล็ก เต๋าเขาก็มาเจอคุณเท่งคุณโหน่งก็หลายเรื่องเหมือนกัน”
ถ้าถามว่า แล้วถ้าทั้ง 3 - 4 คนมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะความฮาและเสียงหัวเราะ
“คือก็ไม่รู้นะ(หัวเราะ)ถ้าไดอาล็อคใครช้าก็ไม่ได้พูดละกัน คือเชือดเฉือนกันเลย ถ้าเข้าด้วยกันต้องใช้คำว่าบรรลัยบรรลัยไดอาล็อคคือแอ็คชั่นปั๊บก็เอาละใครไวไม่พอก็ตายไปเลยไหวพริบไม่มีก็ตายไปเลยแล้วในเรื่องนี้นี่บรรดาแก๊งสามช่ามาเจอกันในเรื่องนี้ครบเลยท่านจะได้ฮาแบบเต็มรูปแบบอย่างที่ท่านคิดเอาไว้นะครับ”
นอกจากนี้เมื่อให้พี่ใหญ่แห่งแก๊งสามช่าพูดถึงการกลับมาแท็คทีมกันของน้องรักทั้ง 2 คน รวมไปถึงการทำงานที่เต็มไปด้วยความตั้งใจแบบเกินร้อยของทั้งในส่วนของงานกำกับของเท่ง เถิดเทิง และการแสดงของโหน่งชะชะช่า
“ก็กว่าจะเจอกันได้บางทีก็นานนะ อย่างเท่งโหน่งคนมาหาเฮียก็ 3-4 ปีแล้ว กว่าเท่งจะว่าง กว่าโหน่งจะว่าง ตอนคนมาหาเฮียผมก็รับเชิญเป็นตำรวจ อันนี้ผมก็มาอีก น้องเรียก ก็ต้องมา ก็มีความผูกผันกันไปแล้ว เอ็งบ้าง ข้าบ้าง ผลัดกันคนละที โอคเจอกันในภาพยนตร์ แต่แน่นอนจนมาถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 แล้วนะครับ ก็คงได้ฮากัน ไส้ติ่งแตกกันอีกครับ ผมว่าคุณเท่งเขาเป็นคนที่เข้าใจในรูปแบบของภาพยนตร์มากๆ นะครับ เพราะเป็นคนที่ใส่ใจ เป็นคนที่สนใจด้วย หลังจากที่เขาเคยทำ เท่งโหน่งคนมาหาเฮียแล้ว นั่นทำให้เขารู้สึกได้ว่าในภาษาภาพยนตร์มันต่างจากชิงร้อยมากนะ มันต่างจากการเป็นพิธีกร ต่างจากอย่างอื่นมาก เพราะความถี่ของภาพ มันต้องชัดเจน จะไปเล่นตะเลาะตะและ เล่นจะอื๊ดจะอั๊ด มันไม่ใช่ คุณเท่งเข้าใจได้ดี ค่อนข้างจะมากกว่าผมด้วยซ้ำไปในบางช็อต เท่งเป็นคนสนใจเวลาเขาทำบททำอะไรเขาจะมานั่งกับผม มานั่งเล่าให้ฟัง ผมก็จะคอยคอมเมนท์ว่าอันนี้ๆๆๆๆ แบบนี้ๆๆ นี่ถ้ามีเครื่องบิน ผมก็บอกว่าระวังเรื่องซีจีนะ ถ้ามีซีจีมากๆ แล้วมันดูเหมือนหนังการ์ตูน ก็เตือนให้ระวังไว้ เขาก็บอกว่าเข้าใจ เขาพยายามให้มันน้อยลง ดูให้เข้าใจและดูให้น่าเชื่อถือขึ้น เวลาอัดรายการด้วยกันจะบอกตลอดว่า อันนี้ควร อันนี้ไม่ควร ส่วนโหน่งเป็นคนที่เวลาเล่นจะเต็มที่กับบทนั้นๆ เล่นเต็มแม็ทซ์เลย ให้เขาแก้ผ้าเขาก็แก้ ให้ทำอะไรก็ทำหมด โหน่งเป็นคนที่ทุ่มเทกับการแสดงมาก ถ้าดูจากชิงร้อยนะ ถ้าใครได้ดูชิงร้อยเห็นมั้ย มันจะประดิดประดอยหน้าตา หนังก็เหมือนกัน ถ้าไม่เหมือนจริง มันก็ไม่เข้าฉาก เป็นนิสัยเขาไปแล้ว ทุกอย่าง เป็นคนที่เอาใจใส่กับคาแรคเตอร์ คาแรคเตอร์ต้องชัดเจน ถ้าเป็นเสี่ยต้องเป็นเสี่ยจริงๆ ถ้าเป็นเด็กต้องเป็นเด็กจริงๆ คือเรื่องคาแรคเตอร์ของคุณโหน่งที่เขาเวลาเล่นอะไรก็ต้องสมจริง”
มองแบบทะลุปรุโปร่งแบบเข้าใจจริงๆ เลยไม่เสียทีที่รู้จักกันมาเป็นสิบๆ ปีและเป็นพี่ใหญ่แห่งแก๊งสามช่าที่หันมาดีกับงานกำกับภาพยนตร์ก่อนใคร นอกเหนือจากความสนุกสนานมันส์ฮาของหนัง “เท่งโหน่งจีวรบิน”แล้ว สิ่งที่หม่ำ จ๊กม๊กมองยังมีเนื้อหาสาระของหนังที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เหมือนกัน
“คงเป็นเรื่องของธรรมะด้วยแหละที่เป็นเรื่องสอดแทรกให้กับคนรู้จักคำว่า “พระเจ้า รู้จักการเข้าวัดเข้าวา” ผมว่านะ เพราะสมัยนี้วัยรุ่น เขาคงไม่รู้จักวัดแล้วมั้ง แต่เรื่องนี้อาจจะทำให้รู้จักวัดมากขึ้น”