กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 19,600 - 19,700
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,347
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 31.83 — 31.87
- GFG11 Hi- Low 19,850— 19,780 ปิดที่ 19,800
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,349.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,345.50 - 1,361 ดอลลาร์ หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้ความต้องการลงทุนในทองคำลดลง โดยวานนี้ รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมกราคมที่ลดลงเหนือความคาดหมายสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มปรับตัวดีขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดบวก 29.89 จุด หรือ 0.25% แตะที่ 12,092.15 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.77 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 1,310.87 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 15.42 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 2,769.30 จุด หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมกราคมที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน ประกอบกับภาคเอกชนเปิดเผยผลประกอบการแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 89.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.45 - 91.67 ดอลลาร์ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก อาจปรับตัวลดลง นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ได้ลดแรงจูงใจให้เข้าซื้อ
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ขายออก 0.42 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,229.28 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,228.86 ตัน
USD/EU เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมกราคมร่วงลงพลิกความคาดหมาย สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสองปีค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.34% แตะที่ 1.3584 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3630 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3598 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 82.180 เยน จากระดับ 81.590 เยนเมื่อวันพฤหัสบดี โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 82.25 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.83-30.88 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.83-30.87 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่นยืนอยู่ที่ระดับ 1.09298 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนม.ค. ลดลง 0.3% จากเดือนธ.ค.ปี 2553 ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลงของมูลค่าการถือครองพันธบัตรต่างประเทศของญี่ปุ่นและราคาทองคำ
- สมาคมทองคำของจีนเปิดเผยว่า จีนยังคงรักษาสถานะการเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่สุดของโลกเอาไว้ได้ในปี 2553 ด้วยกำลังการผลิตทองคำสูงถึง 340.88 ตัน พุ่งขึ้น 8.57% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยจีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่สุดของโลกนับตั้งแต่ปี 2550รายงานของสมาคมทองคำของจีนระบุว่า การเพิ่มขึ้นของผลผลิตทองคำจะช่วยให้จีนสามารถป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินและเงินเฟ้อ และสามารถรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจเอาไว้ได้ โดยสถานการณ์รุนแรงและวิกฤตการเงินทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนชาวจีนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
- นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่ายอดขาดดุลการค้าสหรัฐอาจขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนธันวาคม เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น นอกจากต้นทุนนำเข้าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแล้ว สหรัฐอาจต้องนำเข้าสินค้าผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยสต็อกสินค้าที่ลดลงในช่วงสิ้นปี เนื่องจากผู้บริโภคชาวอเมริกันใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
- กระทรวงการคลังสหรัฐระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ว่า ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจีน ไม่ได้ปั่นค่าเงินของตนเพื่อความได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศอย่างไม่เป็นธรรมในปี 2553 อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า กระบวนการปฏิรูปค่าเงินหยวนของจีนจนถึงขณะนี้ยังไม่เพียงพอ รายงานนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐจัดทำขึ้นทุกๆครึ่งปีเพื่อยื่นต่อสภาคองเกรสนั้น ได้พิจารณาตรวจสอบเศรษฐกิจ 10 ประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมกันเกือบ 3 ใน 4 ของการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ โดยรายงานระบุว่า หลายประเทศปล่อยอัตราแลกเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นเต็มที่ ขณะที่บางประเทศควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเข้มงวดมากกว่า
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนมกราคม 2554 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 36,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9% ตัวเลขจ้างงานเดือนมกราคมนับว่าน้อยที่สุดในรอบสี่เดือน โดยมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 145,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 121,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม โดยการจ้างงานในภาคการผลิตและการค้าปลีกปรับตัวสูงขึ้น แต่ลดลงในภาคการก่อสร้าง ภาคการขนส่ง และคลังสินค้า ส่วนการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆเกือบทั้งหมดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเดือนมกราคม
- เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมผู้สื่อข่าวแห่งชาติของสหรัฐที่นครวอชิงตัน ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้ พร้อมระบุว่า สหรัฐจำเป็นจะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อลดปัญหาด้านการคลังในระยะยาว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
4 - 7 กุมภาพันธ์2554
วันศุกร์ ? Unemployment Rate 9.4% 9.5% 9.0%
? Non-Farm Employment Change 103K 138K 36K
? ECB President Trichet Speaks - - -
วันจันทร์ ? ECB President Trichet Speaks - -