กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บลจ.ไอเอ็นจี เปิดขาย ‘กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)”จับจังหวะลงทุน ลุ้นหุ้นไทยทะยาน โอกาสสร้างผลตอบแทนตามเป้าNAV แตะระดับ 11.20 บาท ณ วันใดวันหนึ่งพร้อมเลิกกอง
บลจ.ไอเอ็นจี คลอดกองทุนใหม่ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” หลังจากประสบความสำเร็จจากกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% กองแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเป้าที่ 12.70% ภายในระยะเวลาแค่ 4 เดือน 15 วัน เผยใช้เทคนิคการจับจังหวะการลงทุนและการคัดกรองหุ้นพื้นฐานดี อนาคตสดใส มั่นใจว่าจะตอบสนอง ความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ชี้จุดเด่นกองที่ 2 ยืดหยุ่นกว่ากองแรก เหตุลดเงื่อนไขการเข้าถึงผลตอบแทนเป้าหมายจาก 5 วันทำการเหลือแค่หาก NAV แตะระดับ 11.20 บาท ณ วันใดวันหนึ่งพร้อมขายคืนหน่วยลงทุนทันที ระบุเพิ่มโอกาสเข้าถึงผลตอบแทนเป้าได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เสนอขาย IPO ระหว่าง 8-15 กุมภาพันธ์นี้ จองขั้นต่ำ 2,000 บาท
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไอเอ็นจี จะเสนอขายกองทุนใหม่ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ได้แก่ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” (ING Thai Equity Trigger 10% Fund (2)) กำหนดจองซื้อในระหว่างวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งกองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นการใช้เทคนิค เรื่องการเข้า-ออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเมื่อมูลค่าหน่วย ลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาท ไปอยู่ที่ 11.20 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุน ก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเลิกกองทุน (โดยกองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ภายใน 2 วันทำการ นับจากวันที่มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ระดับ 11.20 บาท ณ วันใดวันหนึ่ง โดยจะนำเงิน ค่าขายคืนหน่วยลงทุนไปลงทุนในกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์)
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เป็นกองทุนที่ 2 หลังจากที่ บลจ.ไอเอ็นจี ได้ออกและเสนอขาย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10%” ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยใช้ระยะเวลาเพียง 4 เดือน 15 วันเท่านั้น สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 12.70% สูงกว่าดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 4.63% ในระยะเวลาเดียวกัน
สำหรับปัจจัยที่จะสนับสนุนโอกาสให้ผลตอบแทนของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เข้าถึงเป้าหมายได้นั้น อยู่ภายใต้ปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ในปี 2554 ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังประเมินอัตราการขยายตัว ทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ว่าจะเติบโตได้ในกรอบ 3%-5% ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่า ในปี 2554 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 3.5%-4.5% ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการลงทุนของกองทุนนี้ ทางสำนักวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาหุ้นไทยจะขึ้นไปสู่ระดับประมาณ 1,200 จุดในปีนี้ โดยแนวโน้มหลักยังมีการเติบโตได้ แต่ช่วงสั้นๆ อาจจะมีการปรับตัวเป็นระยะ รวมถึงยังคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเติบโตได้ในราว 17%-18% ซึ่งเป็นปัจจัยที่สะท้อนว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นแหล่งที่น่าลงทุน และมีโอกาสในการเติบโต ซึ่งจะสนับสนุนโอกาสที่ผลตอบแทนของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เข้าสู่เป้าหมายในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานเกินไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี กล่าวว่า บลจ.ไอเอ็นจี เชื่อว่า “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” จะตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ด้วยการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทน ที่แน่นอน (Absolute Return) ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนในตลาดหุ้นในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยระดับผลตอบแทนดังกล่าวสามารถเป็นจริงได้ภายในระยะเวลาไม่นาน ภายใต้สภาพแวดล้อมการลงทุนที่เอื้ออำนวย
“เราเชื่อว่า ด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ Market Timing ซึ่งใช้เทคนิคการจับจังหวะการลงทุน การหาช่วงจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหรือขายหุ้น เพื่อที่จะสร้างกำไรและบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนที่วางไว้ และกลยุทธ์ Stock Selection เน้นเทคนิคการคัดเลือกและการให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในกรอบเวลาที่คาดหวังไว้ จะช่วยให้ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่น่าพอใจได้ ขณะเดียวกัน “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” ยังมีจุดเด่นมากกว่ากองทุนแรก ซึ่งกำหนดให้มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 11.20 บาท ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ทำการ เปลี่ยนเป็น การที่มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 11.20 บาท ณ วันใดวันหนึ่ง ก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และมีโอกาสที่กองทุนจะเข้าถึงผลตอบแทนเป้าหมายได้ในเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย” นายจุมพลกล่าว
“กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” ของ บลจ.ไอเอ็นจี จะเสนอขายระหว่างวันที่ 8 - 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยกำหนดอัตราจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท ผู้สนใจสามารถขอรายละเอียดได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) โทร.02-688-7777 กด 2 หรือ www.ingfunds.co.th
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
เอกสารการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมฉบับนี้มิได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน