กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--บลจ.ทหารไทย
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯได้ประเดิมการออกกองทุนใหม่ในรอบปี 2554 ด้วยการเปิดรับจองซื้อ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 24 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น พบว่ามีผู้สนใจลงทุนเป็นอย่างมากทำให้ยอดจองซื้อสูงถึง 430.68 ล้านบาท
นอกจากนั้น การประเดิมออกกองทุน RMF ใหม่จำนวน 2 กองทุนเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนคือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ ได้ปิด IPO ไปเรียบร้อยในช่วงระยะเวลาเดียวกันและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ลงทุนไทยมีความตื่นตัวมากขึ้น มีความเข้าใจในสาระสำคัญของการวางแผนการลงทุนและให้ความสำคัญกับการออมเพื่อการเกษียณอายุและเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนแต่เฉพาะช่วงปลายปี และสำหรับผู้ที่พลาดโอกาสการลงทุนในช่วง IPO ดังกล่าว กองทุนเปิดทหารไทยทั้ง 3 กองทุนจะทำการเปิดขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป
สำหรับ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำให้มากที่สุด ซึ่งบริษัทจัดการจะทำการซื้อขายกองทุนแม่ ซึ่งก็คือกองทุน SPDR Gold Trust ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสิงคโปร์
ทั้งนี้ บลจ.ทหารไทย ออกกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายขึ้นของผู้ลงทุน โดยนับแต่ปี 2548 ที่ทาง บลจ. ทหารไทย ได้มีการออกกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในทองคำบริสุทธ์ขึ้นเป็นกองทุนแรกในประเทศไทย คือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ นั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ภายใต้การจัดการ ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 มีมูลค่าถึง 1,880.78 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ที่ออก IPO ในคราวนี้จะมีความแตกต่างจากกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ กองทุนทองคำเดิมคือการใช้ราคาซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนทราบราคาหน่วยลงทุนได้รวดเร็วขึ้นเพราะเป็น Time Zone เดียวกับประเทศไทย และมีการป้องกันความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
“นับเป็นปรากฏการณ์ที่ผู้ลงทุนจะได้มีสองทางเลือกเพื่อการลงทุนในกองทุนทองคำภายใต้การจัดการของ บลจ. ทหารไทย โดยผู้ลงทุนจะมีอิสระสามารถเลือกลงทุนได้ตามความต้องการและวัตถุประสงค์การลงทุนของตน (Purpose-Driven Investment) อาทิเช่น กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ซึ่งจะทำการซื้อขายกองแม่ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าในอนาคต ขณะเดียวกันกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ จะเหมาะสมกับผู้ที่คาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นในภายภาคหน้า ดังนั้น กองทุนทองคำทั้งสองกองจะมีส่วนเสริมและเป็นทางเลือกของกันและกัน ซึ่งเราเชื่อว่าท้ายที่สุดจะช่วยเติมเต็มความต้องการ และให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ลงทุนของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี” ดร.สมจินต์ กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ บลจ. ทหารไทย ยังได้ทำการปิดจองกองทุน RMF อีก 2 กองทุน นั่นคือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ และ กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งมีกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี กล่าวคือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ มียอดจองซื้อในช่วงการเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) สุทธิเท่ากับ 19.06 ล้านบาท และกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพมียอดจองซื้อสุทธิเท่ากับ 22.46 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ นั้น เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน Templeton Global Bond Fund โดยมี กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เป็นกองทุนต้นแบบ ซึ่งได้จดทะเบียนกองทุนไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนที่ต้องการแสวงหาทางเลือกใหม่ๆ ในการลงทุนโดยเฉพาะจากต่างประเทศ ทำให้ยอดมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงต้องขอจดทะเบียนเพิ่มทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรองรับการเติบโตของกองทุนในอนาคตถึง 4 ครั้ง โดย ณ สิ้นปี 2553 มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึง 7,500 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือสนใจการลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆภายใต้การจัดการของบริษัทฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. ทหารไทย โทร 1725 หรือผ่านช่องการให้บริการอื่นๆ ของบริษัท อันได้แก่ ธนาคารทหารไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และบริการทางระบบอิเล็คโทรนิคส์ อาทิเช่น ระบบ FundLink Online ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ FundLink IVR ระบบ FundLink PDA และ ระบบ FundLink ATM เป็นต้น
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ส่วนบริหารภาพลักษณ์องค์กรและการตลาด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด
โทร 02-636-1800 ต่อ 8748 และ 8749
เด่นพงศ์ จันทรดี / พิมพ์สุภาว์ วงศ์เมืองแก่น