กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--มาสด้า เซลส์
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการเปิดตัวรถยนต์นั่งมาสด้า2 ใหม่ ออกอาละวาดสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดรถยนต์ของไทยจนถึงขณะนี้ และมีการปรับปรุงรูปแบบโชว์รูมกันขนานใหญ่ พร้อมโหมกิจกรรมทางการตลาดกันตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มาสด้าเติบโตสุดสุดถึง 165% มียอดขายสูงถึง 35,147 คัน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทำลายทุกสถิติของมาสด้า พร้อมกับสร้างความเหนียวแน่นอันดีระหว่างผู้บริหารและสื่อมวลชน มาสด้าได้นัดรวมพลสื่อมวลชนจากทุกสาขาร่วมงาน Zoom-Zoom Party ภายใต้คอนเซ็ปต์แบบแฟนซีสนุกๆ ตอน "เปิดไฟ...ใส่หมวก" อวดหมวกสวยๆ หล่อเท่กันเต็มงาน ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน อบอวลไปด้วยมิตรภาพ พร้อมกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยมีคณะผู้บริหารจากมาสด้า พร้อมด้วยสื่อมวลชนกว่า 300 ชีวิต เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผมขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ร่วมเดินทางเคียงคู่กับมาสด้ามาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ แต่พวกเราก็ผ่านตรงนั้นมาได้อย่างเข้มแข็ง วันนี้มาสด้าพร้อมก้าวเดินอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการโหมกิจกรรมด้านการตลาด การขาย การบริการ ตลอดทั้งปี สำหรับปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่อุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทยมีการเติบโตที่สูงมากถึงเกือบ 50% ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้นสูงเกือบ 800,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตสูงสุดในประวัติศาสตร์ รวมถึงมาสด้าก็เช่นเดียวกัน และในปี 2554 นี้ เราพร้อมในหลายๆ ด้านเพื่อเติบโต ที่สำคัญเราได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมทั้งรุ่นพิเศษออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจะมีในทุกๆ ไตรมาส โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งมาเตรียมเปิดตัวมาสด้า3 โฉมใหม่ ที่กำลังจะมาภายในเร็วๆ นี้
สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ด้วยพลังของการทำงานเป็นทีมและศักยภาพของพนักงานทุกคนในบริษัทฯ ส่งผลให้มาสด้าเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง พร้อมๆ กับการได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดีของเพื่อนๆ สื่อมวลชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเติบโตของมาสด้าในประเทศไทยตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาขณะนี้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นอย่างสูงในรถยนต์ของมาสด้า การบริการหลังการขาย ซึ่งจากนี้ต่อไปมาสด้าจะต้องเน้นในเรื่องการตลาดและการขาย รวมทั้งการสร้างแบรนด์มาสด้า และการพัฒนาการบริการหลังการจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพราะว่ารถยนต์มาสด้ามียอดการจำหน่ายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีปริมาณรถที่อยู่บนถนนมากขึ้น ผู้จำหน่ายเองต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า การพัฒนาช่างเทคนิคในศูนย์บริการ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าตลอดไป