กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
“กรมบัญชีกลาง” ชี้ ผลการเบิกจ่ายเดือนมกราคม ๒๕๕๔ ภาพรวมเกินเป้าร้อยละ ๑๐.๓๙ งบลงทุนเกินเป้าร้อยละ ๑๐.๒๑ พร้อมเผย ๔ เดือนของปีงบประมาณ (เดือนตุลาคม ๒๕๕๓-มกราคม ๒๕๕๔) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเบิกจ่ายไปแล้วกว่า ๘๑,๓๔๙.๓๔ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๙.๔๑ ของงบลงทุน
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึง ผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ณ สิ้นเดือนมกราคม ปรากฏว่าเงินงบประมาณรายจ่าย มีการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม จำนวนทั้งสิ้น ๗๗๓,๙๘๐.๔๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๗.๓๙ สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่าย ร้อยละ ๑๐.๓๙ โดยเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน ๖๖๖,๓๘๖.๒๙ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๘.๖๓ สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้จำนวน ๑๐๗,๕๔๙.๑๓ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๑.๒๑ สูงกว่าเป้าหมายถึงร้อยละ ๑๐.๒๑
สำหรับเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ประกอบด้วยเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๖ — ๒๕๕๓ จำนวน ๑๘๒,๖๔๖.๐๖ ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว ๕๙,๕๘๒.๔๕ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๒.๖๒ ส่วนเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท เบิกจ่ายจำนวน ๒๖๐,๙๙๒.๗๕ ล้านบาท หรือร้อยละ ๗๗.๒๗ ของจำนวนเงินจัดสรร (๓๓๗,๗๕๗.๕๙ ล้านบาท) คงเหลือจำนวน ๗๖,๗๖๔.๘๔ ล้านบาท หรือร้อยละ ๒๒.๗๓
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการเบิกจ่าย ๔ เดือนแรก สะท้อนให้เห็นว่าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจสามารถเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่มีการเบิกจ่ายสูงสุด คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เบิกจ่ายงบลงทุนแล้ว ๘๑,๓๔๙.๓๔ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๙.๔๑ ของงบลงทุน
“ในส่วนของงบไทยเข้มแข็ง จากการอนุมัติทั้ง ๒ รอบ ผลการเบิกจ่ายยังคงต่อเนื่องมา แต่อาจมีการชะลอตัวช่วงปลายปีงบประมาณ ๒๕๕๓ เนื่องจากต้องเร่งใช้จ่ายงบประมาณประจำปีก่อน ประกอบกับบางโครงการได้รับอนุมัติโครงการและงบประมาณในช่วงต้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ แต่จากรายงานผลการเบิกจ่ายในระบบ GFMIS ทราบว่าหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินสามารถก่อหนี้ผูกพันได้แล้ว แต่การเบิกจ่ายต้องเป็นไปตามงวดงาน จึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีผ่อนผันเรื่องระยะเวลาการเบิกจ่ายออกไป จากเดิมที่กำหนดต้องให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งเหลือจำนวนไม่มาก ทางกรมบัญชีกลางจะได้มีการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายต่อไป หากเห็นว่าโครงการใดติดปัญหาอุปสรรคจะเร่งเข้าไปดูแลและช่วยแก้ไขปัญหาโดยเร็ว” นายรังสรรค์ กล่าว