กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
ในประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจติดอันดับ 1 หรือ 2 มาตลอด ในปี 2552 พบผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจมากถึง 35,050 คน เฉลี่ย 4 คน / 1 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปี 2542 — 2551 ถึง 3 เท่า ( ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข )
กลุ่มโรคหัวใจมีพบได้หลากหลาย แต่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดพบมากที่สุด และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 5 ของชายไทยในปี 2552
จากรายงานจากวารสารอายุรกรรมหัวใจของอเมริกัน ( American Journal of Cardiology ) พบว่า ผู้ชายที่ไม่พบประวัติการเป็นโรคหัวใจวัย 50 ปีขึ้นไปจำนวน 1,000 คน ที่มีเพศสัมพันธ์เดือนละ 1 ครั้งมีความเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่าผู้ชายวัยเดียวกันที่มีเพศสัมพันธ์ 2 ครั้งขึ้นไป / 1 อาทิตย์ มากกว่าถึง 45 เปอร์เซ็นต์
นพ. อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป บริษัทโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท จำกัด ( แผนกผู้สูงอายุ ) กล่าวว่า “ หัวใจคนเราจะเต้นวันละประมาณ 100,000 ครั้ง เพื่อสูบฉีดเลือดวันละ 2,000 แกลลอนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โรคหัวใจที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยคือ โรคเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ ( Coronary Artery Disease ) ซึ่งเส้นเลือดโคโรนารี ( Coronary Artery ) เป็นเส้นเลือดหลักที่นำเอาเลือด และออกซิเจนเข้ามาเลี้ยงหัวใจ เมื่อเส้นเลือดตีบ หรืออุดตันก็จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและออกซิเจน ส่งผล nb mb ให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย และเสียชีวิตในที่สุด
เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจมี 2 เส้นหลักคือ
- เส้นเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวา ( Right Coronary Artery )
- เส้นเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้าย ( Left Main Coronary Artery ) ซึ่งแยกออกเป็น Left Anterior Ascending และ circumflex Artery ส่วนใหญ่ที่มีปัญหามักจะเป็นเส้นเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้าย ( Left Main Coronary Artery )”
ลดเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำอย่างไร ?
วิธีลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบคือการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือการแข็งตัวของหลอดเลือด
- เลิกสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง ( Aerobic Exercise ) เพื่อช่วยลดความดันโลหิต และคอเลสเตอรอล
- รับประทานอาหารที่มีปริมาณไฟเบอร์สูง เช่น ผัก และผลไม้เป็นประจำ
- ลดความเครียด หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย
- ควบคุมความโกรธ หรืออารมณ์หดหู่ สะเทือนใจ
- ควบคุมคอเลสเตอรอล และระดับความดันโลหิต
- ควบคุมระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
เพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมออาทิตย์ละ 2 ครั้งช่วยหนุ่มวัย 50 ขึ้นไปลดเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ?
การมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาถือเป็นการออกกำลังกายแบบแต่อเนื่องที่ดีวิธีหนึ่ง
การมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาอาทิตย์ละ 2 ครั้งขึ้นไป มีส่วนช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และมีส่วนช่วยสร้างสมดุลของไขมันชนิดดี และชนิดเลวในเลือด ฯลฯ
และพบว่าผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอกับภรรยามักจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับภรรยา ทำให้รู้สึกอบอุ่น และมีที่พึ่งทางใจ ซึ่งความสุข ความสบายใจเหล่านี้น่าจะส่งผลดีกับอัตราการเต้นของหัวใจ และการไหลเวียนของเลือด
นอกจากนี้สมองยังหลั่งสารเอ็นโดรฟินส์ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยลดเครียด ช่วยให้หลับได้สนิท ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
เพศสัมพันธ์ที่มีผลดีกับหัวใจควรจะ
- ไม่ควรทำงานหนักก่อน และหลังมีเพศสัมพันธ์
- ควรมีเพศสัมพันธ์ขณะที่อารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่หงุดหงิด หรือไม่กังวล
- ควรมีหลังจากมื้ออาหาร 1 ชั่วโมงขึ้นไป
- สำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ขณะที่มีอาการเหนื่อย หอบ 8 คล้ายกับเวลาที่เดินขึ้นลงบันไดบ้าน 2 ชั้น
คุณหมออิทธิชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ การดูแลสุขภาพให้ดี การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ และช่วยลดเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ครับ ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2769-2000 # 5303 บริษัท โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท จำกัด ( แผนกผู้สูงอายุ )