‘หลักทรัพย์กสิกรไทย’ เดินทัพ....ลุยหมูไฟ ชักธงรบ ประกาศพร้อมทุกด้านรับการเปิดเสรี

ข่าวทั่วไป Thursday January 18, 2007 17:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--ธ.กสิกรไทย
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จัดแถลงข่าวชี้ “ทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัทปี 2007” วางหมากเดินหน้าธุรกิจ รุกรับปีหมูไฟ ไม่หวั่นการเปิดเสรี ชูแผนรับ แม้มีหลายปัจจัยร้อนเข้ามากระทบ แต่มีความเชื่อมั่นในการหนุนของธนาคารกสิกรไทย ในฐานลูกค้าซึ่งมีขนาดใหญ่ เชื่อปัจจัยพื้นฐานของประเทศยังมีทิศทางที่ดี
คุณรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดทุนปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีแห่งความผันผวน อันเนื่องมาจากมีปัจจัยลบหลายประการเข้ามากระทบ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 8 แห่งกลางกรุง มาตรการการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาทของทางการ ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนจนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับปัจจัยบวกของสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการชะลอการลงทุนดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อรายได้และการประกอบธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์โดยตรง
นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนโครงสร้างของตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น การเปิดเสรีใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์ การยกเลิกการค้ำประกันเงินฝาก และการเปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์สามารถดำเนินธุรกิจแบบ Universal bank ได้อย่างเต็มรูปแบบ จะมีผลทำให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องเร่งสร้างฐานลูกค้าเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงและประกอบธุรกิจที่เป็นการกระจายของแหล่งที่มาของรายได้
ในเรื่องเกี่ยวกับการขยายฐานลูกค้า บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากธนาคาร โดยเกิดจากเจตนารมณ์ของธนาคารกสิกรไทยที่จะให้บริการทางการเงินที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายครบวงจร สามารถสนองทุกความต้องการทางการเงินให้กับลูกค้าเงินฝากของธนาคาร โดยแผนที่จะดำเนินการต่อไปจะเริ่มจากการจัดกิจกรรมต่างๆร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าของธนาคารทราบถึงการให้บริการด้านหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ควบคู่ไปกับการแนะนำลูกค้าจากธนาคารอย่างเป็นระบบ การทำการตลาดกับฐานลูกค้า K-Cyber Banking ของธนาคาร และการขายผลิตภัณฑ์อันเกี่ยวข้องกับตลาดทุนให้กับลูกค้าส่วนหนึ่งที่ยังไม่สนใจตลาดทุน เช่น LTF RMF เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มนี้สนใจการลงทุนในอนาคต
ในส่วนของลูกค้าสถาบันนั้นเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากฐานนักลงทุนสถาบันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากการเติบโตของกองทุนต่างๆ ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่าล้านล้านบาท และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไปอีก ซึ่งการขยายฐานลูกค้าสถาบันของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย นั้นจะมุ่งพัฒนาบทวิเคราะห์ในเชิงลึกและเต็มรูปแบบ โดยอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยและข้อมูลด้านตลาดเงินและตลาดทุนที่ธนาคารกสิกรไทยมีอยู่
สำหรับด้านวาณิชธนกิจนั้น ทีมงานของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ได้ประสานงานร่วมกับธนาคารกสิกรไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถให้บริการการทางการเงินแก่ลูกค้าบรรษัทของธนาคารในลักษณะที่เป็น One Stop Service ทั้งด้านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน การให้สินเชื่อระยะสั้นและระยะยาว การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การออกหุ้นกู้เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน รวมถึงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในรูปแบบต่าง ๆ อย่างครบครัน ซึ่งในปัจจุบันฝ่ายงานด้านวาณิชธนกิจของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นจำนวน 7 ราย
จากภาพรวมที่กล่าวมา ทำให้เราว่ายทวนกระแสโดยจะมีการลงทุนในเรื่องบุคลากรและระบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะรับเจ้าหน้าที่ทางการตลาดอย่างน้อยอีก 70 คน ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 1.5 % และเพิ่มจำนวนการเปิดบัญชีอีกกว่า 100 % จากจำนวนการเปิดบัญชีในปีที่ผ่านมา
คุณณัฐรินทร์ ตาลทอง กรรมการผู้จัดการ สายงานนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ยังกล่าวถึงกลยุทธ์ในปีนี้ว่า บริษัทเน้นวางกลยุทธ์ที่จะรองรับการเปิดเสรีโดยกำหนดกลยุทธ์ ทั้งในด้านของคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality of Product) และคุณภาพของการบริการ (Quality of Service)
ด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality of Product) นั้นเรามีจุดแข็งมากกว่าคู่แข่ง เนื่องจากการที่เราเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารกสิกรไทย ทำให้เรามีความพร้อม และความเชี่ยวชาญ ในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้าน Research โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลด้านตลาดเงิน ตลาดทุนและเศรษฐกิจ จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เรามีทีมนักวิเคราะห์มืออาชีพ มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ และมีมุมมองที่กว้างขวางด้านเศรษฐกิจ ตลาดเงินตลาดทุน และภาวการณ์แนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจ นับ 10 ปี โดยเราจะมีทีมเข้ามาเสริมทัพเพิ่มความแข็งแกร่ง 15 ก.พ.นี้ ทำให้เรามี Research House ที่ Full Team ครบทุก Sector
ในส่วนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ Internet นั้น ลูกค้าสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตกับ K-Cyber Trade ซึ่งมีจุดเด่นก็คือ เพิ่มความคล่องตัวในการซื้อขายแบบ Single Port เชื่อมต่อบัญชีซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตและเจ้าหน้าที่การตลาดไว้เป็นหนึ่งเดียว นอกจากนี้ เรายังให้บริการด้าน Credit Balance ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า “K-Power Trade” ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพิ่มอำนาจการซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการ K-Power Trade นี้ จะได้มีต้นทุนในการซื้อที่ต่ำ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายคิดดอกเบี้ยเพียง 5.75% ต่อปี
สำหรับด้านคุณภาพของการบริการ (Quality of Service) นั้นในปีนี้บริษัทมีนโยบายในขยายจำนวนเจ้าหน้าที่การตลาด โดยจะรับเพิ่มอีก 70 คน เพื่อให้ดูแลลูกค้าในกลุ่ม PWM (Private Wealth Management) และ Signature ของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งวางเป้าหมายไว้จำนวน 15000 บัญชี ควบคู่กับการเพิ่มคุณภาพความรู้ด้านตลาดเงินตลาดทุนแก่บุคคลากรเหล่านี้ให้เชี่ยวชาญ โดยจัดโปรแกรมในการการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้าลูกค้าแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
คุณณัฐรินทร์กล่าวต่ออีกว่า อีกแผนหนึ่งที่เราวางไว้คือการตอบโจทย์ที่ว่าลูกค้าได้รับบริการครบวงจร ในทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ภายใต้แนวคิด Universal Banking นั่นก็คือลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากขึ้นเพราะตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยได้ผ่าน Cyber Branch ซึ่งจะอยู่ภายในบริเวณสาขาของธนาคารกสิกรไทย ภายในไตรมาสแรกของปี 2550จะเริ่มเปิดให้บริการที่สาขาเยาวราชและรัชดาภิเษก-ห้วยขวาง และทยอยเปิดให้ครบ 10 สาขาในสิ้นปีนี้
คุณวิกรานต์ ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกลยุทธ์การให้บริการด้านวาณิชธนกิจว่า จุดเด่นและความแตกต่างของบริษัทคงอยู่ที่การเสนอบริการทางการเงินครบวงจรซึ่งทั้งนี้ต้องตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการลูกค้าหรือผู้ถือหุ้นให้ได้ ที่ผ่านมาเราได้ประสานงานร่วมกับธนาคารกสิกรไทยอย่างใกล้ชิดโดยนำผู้เชี่ยวชาญในเครือธนาคารแต่ละด้าน ผสานกับความต้องการและความเข้าใจในตัวลูกค้า ร่วมเสนอบริการดังกล่าว ทั้งนี้ในปีนี้เราคาดหวังที่จะให้บริการในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกับลูกค้าจำนวน 7 ราย ซึ่ง2ใน7รายนี้มี Market Cap.ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของการเสนอขายหุ้นให้กับลูกค้าทั่วไปครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และการควบรวมกิจการ คุณวิกรานต์กล่าว
คุณรพี กล่าวสรุปว่า “ด้วยจุดแข็งด้านการวิจัย ข้อมูลและฐานลูกค้าของบริษัทประกอบกับกลยุทธ์ต่างๆที่เราได้วางแผน จากทีมการตลาดที่มีความชำนาญ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เรามีความพร้อมในการรับมือการเปิดเสรีที่เกิดขึ้น และเรายังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบครัน เพื่อตอบสนองความต้องการและช่วยให้ลูกค้าแต่ละรายสามารถบรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ