กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--กบข.
สถาบันคุ้มครองเงินฝากดีเดย์ 11 ส.ค.54 ทยอยลดคุ้มครองเงินฝากไม่เกิน 50 ล้านบาท พร้อมปรับมุมมองผู้ฝากเงินต้องตื่นตัว ศึกษาข้อมูลรอบด้านมากขึ้น
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง ( ณ เดือนกันยายน 53 ) มีจำนวนทั้งสิ้น 58.96 ล้านรายหรือคิดเป็นเงินจำนวน 6.87 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้มีจำนวนผู้ฝากเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทอยู่ประมาณ 98.5% และผู้ฝากเงินจำนวนที่เกิน 1 ล้านบาทอยู่ประมาณ 1.5%
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2554 นี้เป็นต้นไป หรืออีกระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ผู้ฝากเงินทุกบัญชีภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มได้รับความคุ้มครองวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท และในวันที่ 11 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท จากเดิมที่เคยได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวน ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ดังนั้น ระหว่างวันที่ 11 ส.ค.54 — 10 ส.ค.55 หากมีกรณีสถาบันการเงินล้ม สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะจ่ายคืนให้ผู้ฝากไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนที่เกินจาก 50 ล้านบาทผู้ฝากขอรับคืนได้จากกระบวนการชำระบัญชีของสถาบันการเงินต่อไป
นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่า “โดยทั่วไปในขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สถาบันการเงินมีฐานะมั่นคงภายใต้การกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพสูง ประกอบด้วยผู้ที่มีเงินฝากเกิน 50 ล้านบาทมีอยู่จำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ฝากเงินทั้งระบบ และผู้ฝากเงินเหล่านี้เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุน สามารถดูแลตนเองได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อมั่นว่าการลดวงเงินคุ้มครองที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 ส.ค.54 จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อระบบการเงิน
และจากนั้นต่อไปอีกหนึ่งปี คือ 11 ส.ค.55 เป็นต้นไป แม้ว่าวงเงินคุ้มครองจะลดลงเหลือ 1 ล้านบาท แต่การคุ้มครองดังกล่าวก็ยังครอบคลุมผู้ฝากเงินถึง 98.5% เชื่อว่าผู้ที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาท หรือในส่วน 1.5% จะค่อยๆ พิจารณาปรับตัวโดยไม่ตื่นตระหนก ทั้งนี้ การฝากเงินยังคงเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากผู้ฝากเงินจะได้รับผลกระทบก็ต่อเมื่อสถาบันการเงินล้ม ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากทีเดียว”
อย่างไรก็ตาม หากมีกรณีสถาบันการเงินถูกสั่งให้ปิดกิจการหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากเงินสามารถมายื่นคำขอ พร้อมแสดงหลักฐานเพื่อขอรับเงินฝากคืนภายใน 90 วัน นับแต่วันที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากประกาศกำหนดให้มายื่นขอรับเงิน หลังจากนั้นผู้ฝากเงินจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน นับแต่วันยื่นคำขอรับเงิน
สำหรับประเภทเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง ได้แก่ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก และใบรับฝากเงินที่เป็นเงินบาท ยกเว้นเงินฝากใน “บัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ” ซึ่งเป็นประเภทบัญชีพิเศษที่เปิดเพื่อทำรายการเฉพาะตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เงินฝากที่มีอนุพันธ์แฝง และเงินฝากระหว่างสถาบันการเงิน
ผู้สนใจรายละเอียดต่างๆของสถาบันคุ้มครองเงินฝากสามารถติดตามได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0300