กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--นอตตี้เบอร์รี่
บริษัท นอตตี้เบอร์รี่ เป็นผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ ส่งเสริมสิ่งแวดล้มทางการศึกษาให้กับเด็ก โดยมีการจัด เสวนาเรื่อง “สิ่งแวดล้อมกับบรรยากาศการเรียนรู้ สำคัญต่อจินตนาการของเด็กอย่างไร” จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 54 โดย พญ. เสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์พัฒนาการและพฤติกรรม โรงพยาบาล บีเอ็นเอช(BNH) มาร่วมให้คำแนะนำ และมอบความรู้ ในงานครั้งนี้ พร้อมด้วย คุณสุปราณี เจริญผล (ไก่)ซึ่งถือว่าเป็นคุณแม่ที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกเองโดยตรง จะมาร่วมพูดคุยกับเราในครั้งนี้ด้วย โดยพูดถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวของเด็กๆ มีผลต่อเด็กทางด้านไหนบ้าง และคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะจัดการ หรือสร้างสิ่งแวดล้อมให้กับลูกๆได้อย่างไร รวมถึงเรื่องการเรียนรู้และพัฒนาการที่เกิดขึ้นของลูกๆ พร้อมทั้งจินตนาการสร้างได้ สิ่งแวดล้อมมีผล และช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างไรบ้าง คุณหมอให้คำแนะนำว่า
“เด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็ก ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะสิ่งแวดล้อมนี้อยู่รอบตัวของเขาตลอดเวลา เด็กก็ได้รับการซึมซับสิ่งเหล่านี้ จากการ มองเห็น หรือเราพูดคุยกับเขา สอนเขา อย่างตอนน้องเล็ก ๆ มีคุณพ่อคุณแม่บางท่านป้อนเขาลูกไปด้วย ดูทีวีไปด้วย เด็กก็จะเกิดความเคยชิน คือกินข้าวก็ต้องดูทีวี สิ่งแวดล้อมขณะทานข้าวก็คือทีวี มันเหมือนบรรยากาศ หรือสิ่งที่เด็กคุ้นเคยตลอดเวลา หรือคุณพ่อคุณบางท่าน ตอนลูกยังเล็ก ๆ ก็อ่านหนังสือนิทานก่อนนอนให้ลูกฟังทุกคืน พอน้องโตขึ้น ถึงคุณพ่อคุณแม่จะเลิกอ่านหนังสือนิทานให้น้อง ๆ ฟังแล้ว แต่เด็กก็จะติดนิสัยอ่านหนังสือก่อนนอนได้ นี่เรียกว่า เราสร้าง บรรยากาศ ความคุ้นเคยให้กับเขา จนกลายเป็นความเคยชินไป แล้วเวลาที่เด็กทำเป็นปกติ เป็นเรื่องที่เขาทำจนชิน จะไม่ไปฝืนความรู้สึก หรือเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากทำ”
อย่างเรื่องการเรียนหนังสือของน้อง ๆ เราสามารถจะสร้างนิสัยอย่างไรให้น้อง ๆ เป็นเด็กที่รักการอ่าน
เราต้องเริ่มต้นจากครอบครัวก่อนเลย คุณแม่คุณแม่ หรือญาติพี่น้อง เราต้องคุยกัน หรือขอความ ร่วมมือกันเลยนะ เพราะเด็กนี่เขาสามารถเรียนรู้และรับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ได้ตั้งแต่คุณแม่เริ่ม ตั้งครรภ์แล้ว จะเห็นว่าคุณแม่บางคนชอบคุยกับลูกในท้อง เปิดเพลงให้ลูกฟัง เวลาจะทำอะไรก็จะคุยกับเขา บอกเขาตั้งแต่เขาอยู่ในท้องเลยก็มี พอน้องคลอดออกมา ก็จะจำเสียงคุณแม่ได้ หรือจำ เพลงที่เราเคยเปิดให้เขาฟังได้ ซึ่งมันเป็นความคุ้นเคยที่เขาเคยได้ฟังในระหว่างที่เขาอยู่ในท้องแม่พอออกมาอยู่ข้างนอก เขาก็ยังจำได้ อย่างเรื่องจะหัดให้เขาสนใจในเรื่องการอ่านหนังสือ หรือรักที่จะเรียน เราก็ต้องเริ่มตั้งแต่เขายังแบเบาะเลย ที่บ้านนี่ ต้องสร้างบรรยากาศการเรียนให้กับน้อง ๆ อย่างห้องนอน ก็อาจจะมีการแปะ ตัวการ์ตูน หรือตัวรูปสัตว์ต่าง ๆ ตัวหนังสือก็ได้ หรืออะไรก็ได้ เราก็เล่นกับเขาคุย หรือชี้ให้เขาดู ว่านี่เรียกว่า แมว นก ถ้าเป็นตัวเลข ก็ หนึ่ง สอง สาม ก็แล้วแต่ คุณพ่อคุณแม่ จะทำ อย่างนี้เขาก็จะค่อย ๆ จำไปเรื่อย ๆ พอเริ่มพูด ก็หัดสอนให้พูดเป็นคำ ๆ ค่อยอ่านหนังสือให้เขาฟัง หรือทำตัวอย่างให้เขาเห็นอยู่ตลอดเวลา อย่างคุณพ่ออาจจะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้าทุกวัน เขาก็จะมองเห็น และเลียนแบบพฤติกรรม เราก็วางหนังสือรูปภาพให้เขาหยิบ หัดให้เขาจับให้เขาหัดออกเสียง หรือคุณพ่อนั่งทำงานบนโต๊ะทำงาน เขาเห็นเขาก็จะเลียนแบบพฤติกรรมเรา คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มสร้างบรรยากาศ ทำพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งขึ้นมา เป็นมุมของเขาเอง อาจจะจัดเป็นห้องหรือเป็นมุมสำหรับเล่น หรือทำกิจกรรมกัน สร้างพื้นที่ให้เป็นของเขาเอง เริ่มจากตกแต่งห้องตามผนังบ้าน อันนี้คุณพ่อคุณแม่อาจต้องลงทุน หรือทำใจหน่อย ถ้าลูกจะชอบขีดเขียนผนังหรือกำแพงบ้าน ซื้อโต๊ะตัวเล็ก ๆ ให้เขา เพื่อหัดให้เขานั่งดูหนังสือนั่งขีดเขียนหรือนั่งระบายสีรูปภาพตั้งแต่เด็ก ๆ เลย ฝึกให้เขาทำเป็นประจำ ก็จะกลายเป็นนิสัยของเขาเอง เขาก็จะชอบหรือสนใจ เรายังสามารถดูแลเขาหรือสอนเขาในเรื่องต่าง ๆ ได้อีกด้วย จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องใส่ใจกับตรงนี้ด้วย