กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ก.ไอซีที
นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ (National e-Business Registry : e-Biz) ว่า ภายหลังจากกระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2552 นั้น ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้พัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจดังกล่าวแล้วเสร็จ พร้อมเปิดบริการให้ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทย(ไอซีที) ได้เข้าไปลงทะเบียน และใช้งานระบบต่างๆ อย่างสมบูรณ์แล้ว
“ในการใช้งานระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย อาทิ การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร กิจกรรมต่างๆ และสินค้าของผู้ประกอบการ รวมทั้งได้พื้นที่เว็บเพจฟรี เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลของผู้ประกอบการไอซีทีไทย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการฯ สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล สำหรับผู้ประกอบการไอซีทีไทยที่มีความสนใจติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางดังกล่าวสามารถเข้ามาลงทะเบียนใช้บริการได้ฟรีที่เว็บไซต์ http://ebiz.mict.go.th” นายวรพัฒน์ กล่าว
ระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ หรือ e-Biz นี้ เป็นระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมและตลาดไอซีที สำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่เก็บรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิตสินค้า และการให้บริการของผู้ประกอบการไปสู่ผู้บริโภคผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต โดยระบบดังกล่าว ประกอบด้วยระบบงานย่อย 10 ระบบ คือ 1.ระบบลงทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจ ไอซีที 2.ระบบจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์/บริการ 3.ระบบจัดการข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ 4.ระบบจัดการข้อมูลการฝึกอบรมและสัมมนา 5.ระบบจัดการข้อมูลโครงร่างของเว็บไซต์ 6.ระบบจัดการข้อมูลการซื้อขาย 7.ระบบจัดการข้อมูลการจ่ายเงิน 8.ระบบจัดการข้อมูลพื้นฐาน 9.ระบบจัดการข้อความประกาศ และ10.ระบบรายงาน
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้ลงทะเบียนในระบบ e-Biz จะได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การเผยแพร่ข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการในหน้าเว็บไซต์ การเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์/บริการของผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถสั่งซื้อสินค้าระหว่างกันในระบบได้ และยังจะได้รับพื้นที่สำหรับสร้างหน้าเว็บเพจของผู้ประกอบการได้ฟรี นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์/บริการของผู้ประกอบการที่มีมาตรฐานรับรอง และเป็นไปตามเกณฑ์ราคาพื้นฐานของกระทรวงฯ จะได้รับการประชาสัมพันธ์อยู่บนเว็บไซต์ทะเบียนกลางทางธุรกิจด้วย
“ในอนาคต กระทรวงฯ มีแนวทางที่จะพัฒนาให้ระบบ e-Biz ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งานทั่วไป รวมถึงสร้างระบบสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจในด้านต่างๆ ให้มากขึ้น เช่น การพัฒนาระบบให้สามารถทำธุรกรรมการจ่ายเงิน และติดตามการขนส่ง ผ่านระบบได้ โดยระยะต่อไปจะนำระบบ e-Biz เชื่อมต่อกับระบบ e-Market Place เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ e-Biz เข้าสู่ระบบ e-Market Place ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการในตลาด ASEAN รวมทั้งจะมีการนำระบบ e-Biz เชื่อมต่อกับระบบ e-Government Procurement หรือ e-GP ของกรมบัญชีกลาง โดยเชื่อมต่อส่วนการลงทะเบียน ผู้ประกอบการระบบ e-Biz ให้สามารถที่จะใช้งานในระบบ e-GP ร่วมกันได้” นายวรพัฒน์ กล่าว