ครั้งแรกของการเดินทางสู่เส้นทางสายไหมโบราณในเอเชีย

ข่าวทั่วไป Friday February 11, 2011 09:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--Jigsaw Communications เปิดให้เข้าชมที่พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ที่ มารีน่า เบย์ แซนด์ส จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอเมริกา สิงคโปร์ - การเดินทางอันแสนมหัศจรรย์บนเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีในนาม เส้นทางสายไหม จะเริ่มขึ้นเมื่องาน เดินทางบนเส้นทางสายไหม: เส้นทางโบราณสู่โลกยุคใหม่ เปิดให้เข้าชมในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ มารีน่า เบย์ แซนด์ส จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอเมริกา และเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในเอเชีย นิทรรศการจะเนรมิตเมืองโบราณของเอเชียและตะวันออกกลางระหว่างปี ค.ศ.600 และ ค.ศ.1200 ก่อนคริสตกาล นิทรรศการแบบปฏิสัมพันธ์จัดแสดงบนเนื้อที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตร และเป็นนิทรรศการที่ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับภาพ เสียง แม้กระทั่งกลิ่นอายของตลาดที่วุ่นวายไปด้วยสรรพสำเนียงในเอเชียและตะวันออกกลางอย่างแท้จริง ผู้ชมจะได้เฝ้าชมการปั่นตัวของหนอนไหมจนกลายเป็นรังไหมดิบในเมืองซีอาน (Xi’an) เมืองหลวงของจักรพรรดิ์ในราชวงศ์ ถัง และได้ “เดิน” เข้าสู่ตลาดยามค่ำคืนที่สับสนวุ่นวายของเมือง ถูหลู่ฟาน (Turfan) และชม ขนนก, ขนสัตว์ และเครื่องเทศ ที่นำมาจัดแสดง รวมทั้งชมงานฝีมือการทำกระดาษและการเป่าแก้วแบบโบราณใน ซามาร์แคนด์ (Samarkand) และสิ้นสุดการเดินทางที่ แบกแดด (Baghdad) ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการศึกษาในเวลานั้น ผู้ชมจะได้รับการต้อนรับจากอูฐจำลองขนาดเท่าของจริงแต่งเครื่องเต็มยศสำหรับการออกเดินทาง คลี่ปมความลับของการเลี้ยงไหมซึ่งครั้งหนึ่งเคยเก็บเป็นความลับที่ไม่อาจเปิดเผยเพราะเป็นสิ่งที่ทำกำไรให้อย่างงามกับการค้าไหมของชาวจีน ชมเครื่องทอผ้าขนาดใหญ่ยักษ์คล้ายในสมัยราชวงศ์ถัง พร้อมทั้งสัมผัส บรรยากาศกลิ่นหอมกรุ่น และเครื่องถ้วยชามในยุคสมัยที่ล่วงผ่าน “ผู้ชมทั้งจากสิงคโปร์และทั่วโลก ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะเพลิดเพลินไปกับนิทรรศการแบบปฏิสัมพันธ์ที่ผู้ชมมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การทำไหม ไปจนถึงทักษะการทำกระดาษและการเป่าแก้ว แนวทางที่เป็นสากลของศิลปะและวิทยาศาสตร์ ที่หลอมรวมกันในช่วงชีวิตและเวลาของผู้คนที่อาศัยอยู่และเดินทางไปมายังเมืองโบราณต่างๆหล่านั้น ซึ่งมีค่าเสมือนหนึ่งเป็น “เส้นทางสายสำคัญของข่าวสาร” ในเวลานั้น ทางสายไหมเป็นตัวจักรสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ในด้านศิลปะ วิทยาการ และการค้า ที่ช่วยพัฒนาอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก” ทอม วาลเลอร์ ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ที่ มารีน่า เบย์ แซนด์ส กล่าว “ทางสายไหมไม่ใช่เป็นเส้นทางสายเดี่ยวแต่เป็นระบบเส้นทางที่เชื่อมต่อกับเส้นทางสายการค้าอื่นๆ เหมือนจุดพักรถส่งของย่อยๆ ใครคนหนึ่งอาจเดินทางจากแหล่งชุมชนหนึ่งไปยังอีกแหล่งชุมชนหนึ่ง ถ่ายโอนสินค้าของพวกเขาสินค้าเหล่านั้นจะถูกต่อรองราคาและเปลี่ยนมือไปและแล้วก็จะถูกขนส่งต่อไปกับใครคนอื่น ไม่มีปักเจกคนใดที่จะเดินได้จนสุดทางสายไหม มีก็แต่สินค้าเหล่านั้นเท่านั้นที่ไปจนสุดทาง และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเหล่านั้นก็ไปจนสุดทางเช่นกัน แน่นอนที่ว่าเราสามารถสืบหาร่องรอยของศาสนา และ ค่านิยมของสังคมที่ติดไปกับสินค้าเหล่านั้น...ที่เคลื่อนไปตลอดเส้นทางสายไหม” มร.มาร์ค โนเรลล์ ประธานและภัณฑรักษ์ผู้กำกับดูแลพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอเมริกาแผนกบรรพชีวินวิทยา กล่าว โดยรวมๆที่รู้จักกันในนาม “เส้นทางสายไหม”- เส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางสายสำคัญของวัฒนธรรม การค้า และการแลกเปลี่ยนวิทยาการระหว่างคนทำมาค้าขาย พ่อค้า ทหาร และชนเผ่าเร่ร่อนจากจีนโบราณ อินเดีย ธิเบต เปอร์เซีย และประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อพันปีที่ล่วงมา เส้นทางนี้ได้ชื่อมาจากการค้าขายไหมของชาวจีนซึ่งเป็นชุมสายของเส้นทางหมื่นกิโลเมตร ผู้คนสามารถใช้เส้นทางสายไหมในการขนส่งสินค้า ในการค้าทาส และสินค้าหรูหราต่างๆ อย่างเช่น ผ้าไหมและผ้าเนื้อดีอื่นๆ, น้ำหอม, เครื่องเทศ, ยารักษาโรค, เครื่องเพชรพลอย, เครื่องแก้ว และโดยเฉพาะความรู้ระหว่างตะวันออก เอเชียกลาง เอเชียตะวันตก และเมดิเตอร์เรเนียน ผู้ชมจะได้ทดลองใช้เครื่องมือดาราศาสตร์โบราณ ชมพระสูตรฉบับคัดลอกในพุทธศาสนาของธิเบต หรือคัมภีร์ทางศาสนาซึ่งทำจากเนื้อไหมงามวิจิตร อีกทั้งสัมผัสใกล้ชิดกับผืนผ้าจารึกซึ่งทำการลอกลายโดยการใช้ศิลปการถูภาพที่ลอกลายมาจากตอนหนึ่งของศิลาจารึกซึ่งเป็นเสาหินสลักอายุกว่า 1200 ปีของพระในคริสต์ศาสนานิกายเนสโตรเรียนที่ตั้งตระหง่านในเมือง ซีอาน ในปี ค.ศ.781 และยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ไฮไลต์อื่นๆได้แก่ นาฬิกาน้ำจำลองความสูง 2 ฟุต อายุ 800 ปี ที่ออกแบบโดย วิศวกรชาวอิสลาม และจิตรกรรมฝาผนังความยาว 120 ฟุต หนึ่งในจิตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดที่ได้เคยมีการทำให้กับการจัดนิทรรศการพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ ผู้ชมรุ่นเยาว์จะสนุกไปกับการสะสมแสตมป์ในสมุด “พาสปอร์ต” ขณะผจญภัยอยู่บนเส้นทางสายไหมพร้อมทั้งหรรษาไปกับหนังสือเล่าเรื่องโดยคอมพิวเตอร์ ที่จะชุบชีวิตให้กับเรื่องเล่าไร้กาลเวลาที่เล่าโดยนักเดินทางบนถนนสายไหม เดินบนเส้นทางสายไหม: เส้นทางโบราณสู่โลกยุคใหม่ เปิดใหเข้าชมในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 27 มีนาคม ศกนี้ ควบคุมนิทรรศการโดย มาร์ค โนเรลล์ ประธานและภัณฑรักษ์ผู้กำกับดูแลแผนกบรรพชีวินวิทยา ของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอเมริกา พร้อมภัณฑรักษ์ร่วมรับเชิญ วิลเลียม ฮันนี่เชริ์ช ผู้ช่วยศาสตราจารย์แผนกมนุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยเยล และที่ปรึกษา เดนิส ไลดี้ ภัณฑรักษ์แผนกศิลปเอเชียของ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิแตน (Metropolitan Museum of Art) พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์แห่งแรกของโลกใน มารีน่า เบย์ แซนด์ส จะเผยโฉมสู่สายตาชาวโลกในวันฤกษ์งามยามดี 17 กุมภาพันธ์ ศกนี้ เวลา 13.18 น. อวดโฉมความงามของอาคารของพิพิธภัณฑ์รูปทรงดอกบัว พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์จะเป็นศูนย์กลางของกระแสการตื่นตัวที่กำลังเติบโตขึ้นทางด้านศิลป์และศาสตร์ พร้อมทั้งเป็นสถานที่แห่งแรกสำหรับการจัดทัวร์นิทรรศการนานาชาติใหญ่ๆจากคอลเลคชั่นที่มีชื่อเสียงทั่วโลก พื้นที่รวมของพิพิธภัณฑ์ 50,000 ตารางฟุต ประกอบด้วย 21 แกลลอรี่ จะพาเหรดขบวนนิทรรศการอันสุดประทับใจซึ่งครอบคลุมศาสตร์ในหลากหลายสาขาตั้งแต่ ศิลปะและวิทยาศาสตร์, สื่อและเทคโนโลยี่ ตลอดไปจนถึงการออกแบบ และสถาปัตย-กรรม มาจัดแสดง นอกเหนือจากนิทรรศการ เดินบนเส้นทางสายไหม: เส้นทางโบราณสู่โลกยุคใหม่ ที่เปิดให้ชมที่พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ที่ มารีน่า เบย์ แซนด์สแล้ว ยังมี เจงกิส ข่าน: นิทรรศการ และนิทรรศการ ศิลปและศาสตร์: ท่องสู่โลกแห่งการสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นนิทรรศการเอกของพิพิธภัณฑ์ ข้อมูลการเข้าชม บัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ - $30.00 ผู้สูงอายุ (ตั้งแต่อายุ 65 ปี ขึ้นไป) — $27.00 เด็ก ( อายุ 2 -12 ปี) - $17.00 นักเรียนเป็นหมู่คณะ (ขั้นต่ำ 25 แพ็ค) - $10.00 กรุ๊ปทัวร์ (ขั้นต่ำ 25 แพ็ค) - $24.50 หมายเหตุ ? ราคายังไม่รวม GST 7% และ ค่าธรรมเนียมการจองบัตร SISTIC ? บัตรเข้าชมสำหรับบุคคลภายนอกจำหน่ายตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ website ของมารีน่า เบย์ แซนด์ส (www.marinabaysands.com/ArtScienceMuseum) และที่ห้องจำหน่ายบัตรทุกแห่งของมารีน่า เบย์ แซนด์ส และทุกที่ของ SISTIC เวลาเปิดทำการ ทุกวัน 10.00 น. — 22.00 น. ไม่มีวันหยุด สามารถเข้าชมรอบสุดท้ายได้เวลา 21.00 น. ? เพิ่มเติม : 10 สุดยอดสิ่งที่ต้องชม 1. ไหมจีน ในสมัยราชวงศ์ ถัง (ค.ศ. 618 — 906) ไหมจีนถือเป็นสมบัติล้ำค่าทั่วทั้งเอเชียจากคุณสมบัติของสีสันที่สดใสและลวดลายที่เหนือชั้น ในรูปเป็นการผลิตขึ้นโดยใช้วิธีการสมัยใหม่เลียนแบบไหมในสมัยราชวงศ์ถังซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ในห้องพัศดุของพระบรมวงศานุวงศ์ในญี่ปุ่น @AMNH/D. Finnin ? 2. อุปกรณ์ดาราศาสตร์โบราณ อุปกรณ์ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ในสมัยเปอร์เซียระหว่างปี ค.ศ. 1730 — 1775 มีแผ่นสอดใช้งานในละติจูดที่ต่างกันสำหรับนักเดินทางและนักดาราศาสตร์ชาวอาหรับใช้ในการเดินทาง นำเสนอในรูปลักษณ์ที่เต็มไปด้วยงานศิลป์ เช่นการตกแต่งลวดลายเป็นลายเส้นโค้งบนแผ่นโลหะส่วนบนที่ใช้เป็นตัวชี้ไปยังดวงดาวที่สุกสกาว AMHN Hayden Planetarium Collection 2046 @AMNH/D. Finnin 3. พระสูตรบนผืนผ้าไหม งดงามและล้ำค่า — ผ้าไหมถูกใช้เป็นสัญญลักษณ์แทนการบูชาในพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน พระสูตรในพุทธศาสนาของธิเบตหรือคัมภีร์ทางศาสนาถูกห่อหุ้มอยู่ในผ้าฝ้ายตกแต่งด้วยไหมแดงลายจตุรัสซึ่งเป็นประเพณีการเก็บรักษาที่สะท้อนถึงความสำคัญของไหมและความศักดิ์สิทธิของคัมภีร์ @ เอื้อเฟื้อโดย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอเมริกาแผนกบรรพชีวินวิทยา 4. ผืนผ้าศิลาจารึกเนสโตเรียน ผืนผ้าแสดงข้อความจากตอนหนึ่งในศิลาจารึกเนสโตเรียนอายุกว่า 1200 ปี ซึ่งเป็นแท่งหินจารึกที่ตั้งตระหง่านในเมือง ซีอาน ในปี ค.ศ. 781ซึ่งยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ผืนผ้าแสดงการจารึกในช่วงเวลาซึ่งต่างกันและมีทั้งอักษรจีนและสัญญลักษณ์อักษรภาพคริสเตียน รวมถึงกากบาทเล็กๆบนยอด เนื้อความเป็นการจารึกถึงวิธีการเข้ามาของ “ศาสนาที่รุ่งโรจน์” (ศาสนาคริสต์นิกายเนสโตเรียน) ที่แผ่ขยายเข้ามาในประเทศจีนในปี ค.ศ. 635 ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิ์ ถังไท่จง @เอื้อเฟื้อโดย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของอเมริกาแผนกบรรพชีวินวิทยา? ? 5. ดนตรีจีนแบบปฏิสัมพันธ์ เด็กและผู้ใหญ่สามารถสร้างเสียงใหม่ในแบบอิเล็กทรอนิกจากเครื่องดนตรีจีนโบราณ อย่างเช่น มูนหลิว, ผี่ผา 4 สาย, กลอง, ฉาบ ที่จัดแสดงในส่วนของนิทรรศการเมืองซีอาน @ AMHD/D 6. อุปกรณ์ดาราศาสตร์โบราณที่ยังคงใช้งานได้ ผู้เข้าชมจะได้ลองใช้งานอุปกรณ์ดาราศาสตร์ของอิสลามโบราณเพื่อดูเวลาโดยกำหนดตำแหน่งของ”ดวงดาว” ที่จัดทำขึ้นโดยรอบงานแสดง 7. แผนที่เส้นทางสายไหมแบบปฏิสัมพันธ์ แผนที่อิเลคทรอนิกแบบปฏิสัมพันธ์บนผิวโต๊ะที่จัดแสดงในส่วนของนิทรรศการของซามาร์แคน เชิญชวนผู้เข้าชมให้ค้นหาความเชื่อมโยงระหว่าง วัฒนธรรม วิทยาการ และภูมิศาสตร์ โดยการกดปุ่มที่แตกต่างกัน ข้อมูลใหม่ๆจะถูกฉายผ่านไปมาบนแผนที่ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ชวนให้ประหลาดใจ @ AMHD/D 8. กองคาราวานอูฐ ณ ทางเข้าสู่นิทรรศการ เดินทางบนเส้นทางสายไหม ผู้ชมจะได้ประจันหน้ากับอูฐจำลองขนาดเท่าของจริง 3 ตัว ซึ่งแต่งเครื่องเต็มยศสำหรับกองคาราวานและบรรทุกสินค้าสำหรับค้าขาย ทั้งอูฐและผู้ชมจะถูกโอบล้อมด้วยจิตรกรรมฝาผนังรูปภูมิทัศน์เนินทรายความยาว 120 ฟุต @ AMHD/D 9. ตลาดค่ำ ถูหลู่ฟาน นิทรรศการในส่วนของตลาดค่ำ ถูหลู่ฟาน อันอุดมสมบูรณ์ จะส่งผู้เช้าชมไปยังตลาดค่ำที่เนรมิตขึ้นใหม่ในเมืองทะเลทรายนี้ที่หลากล้นไปด้วยสินค้านานาชนิด ตั้งแต่ ไพลิน, ผ้าไหม, หยก, ทับทิม, หนังเสือดาว, ขนนกยูง, ผลไม้ และเครื่องเทศ ซึ่งสร้างความหลงใหลให้กับนักเดินทางเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว @ AMNH/R Mickens 10. เรือใบของชาวอาหรับ ผู้ชมสามารถเดินเข้าชมพื้นที่ความยาว 41 ฟุต ของเรือใบอาหรับจำลองขนาดเท่าของจริงความยาว 71 ฟุต ซึ่งผ่าครึ่งให้เห็นสินค้าจำพวกเซรามิกส์และงานโลหะที่ทำขึ้นอย่างประณีต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ