ซีพีเอฟผ่านปี 2549 ยอดขายโต 10% คาดปี 50 ยังขยายตัวได้อีก 5-10%

ข่าวทั่วไป Wednesday February 28, 2007 16:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ซีพีเอฟ
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ รายงานยอดขาย ปี 2549 ได้ 125,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนร้อยละ 10 และผลกำไรสุทธิ 2,510 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผล 0.02 บาท คาดปี 2550 ขยายตัวต่อเนื่อง ร้อยละ 5-10 ด้วยกลยุทธ์สร้างแบรนด์ต่อเนื่อง และผลการดำเนินงานด้านธุรกิจสัตว์น้ำที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เช่นที่อินเดีย มาเลเซียยังมีการเติบโตดี รวมถึงโครงการใหม่ที่ลาวและรัสเซีย
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2549 ว่า มียอดขาย 124,931 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2548 ในอัตราร้อยละ 10 โดยมีกำไรสุทธิ 2,510 ล้านบาท ทั้งนี้ โดยเฉพาะธุรกิจสัตว์น้ำ ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เช่น อินเดีย มาเลเซีย มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย
นายอดิเรก กล่าวว่า แม้ว่า ช่วงต้นปี 2550 ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับภาวะโรคระบาดไข้หวัดนกยังคงเกิดขึ้นในต่างประเทศ รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนใหม่ในประเทศอื่นๆ น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการใหม่ในประเทศลาวและรัสเซียที่เริ่มดำเนินการ น่าจะช่วยเสริมทำให้ยอดขายปี 2550 ยังคงเติบโตได้ในอัตราประมาณ 5-10%
ขณะเดียวกัน ยังเสริมกลยุทธ์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เน้นการพัฒนาและสร้างบุคคลากร พร้อมยังคงให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์และขยายช่องทางการกระจายสินค้าอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งมองว่า ซีพีเอฟต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันกับภาวะธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นายอดิเรก กล่าว
และในวันนี้ (28 กพ.2550)คณะกรรมการบริษัทซีพีเอฟ ได้พิจารณาเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.02 บาทต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 4 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 5 เมษายน 2550 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2550
นอกจากนั้น ตามมาตรฐานบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีได้มีประกาศเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2549 ที่บริษัทจะต้องเริ่มใช้ตั้งแต่ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 เป็นต้นไป โดยบริษัทจะรับรู้รายได้จากเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ในงบการเงินเฉพาะบริษัทได้ต่อเมื่อบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมนั้นได้มีการจ่ายเงินปันผลมาให้บริษัทแล้วเท่านั้น คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทให้เป็นการจ่ายปีละ 2 ครั้ง
และเพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการจัดหาเงินทุน คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้บริษัทมีวงเงินเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท โดยจะออกเสนอขายครั้งเดียว หรือเป็นคราวๆ ไปก็ได้
ในวันเดียวกันนั้นคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทซีพีเอฟ โดยมีมติให้เสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระทั้งหมดแล้วของ Aqua Beauty, Inc. (“ABI”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นผ่านบริษัท ซีฟู้ดส์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (“SFE”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยซึ่งซีพีเอฟถือหุ้นทางตรงในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยกำหนดให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
สำหรับวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550 คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2550 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้นที่ 11 อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ เลขที่ 313 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550 ในวันที่ 5 เมษายน 2550 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักสารนิเทศ ซีพีเอฟ โทรศัพท์ 0-2625-7343-5, 0-2631-0641, 0-2638-2713

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ