กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--PRdd
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่โลหะเงิน หรือ Silver 99.99% เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนมากขึ้น โดยเน้นลูกค้าที่เป็นกลุ่มส่งออก Silver โดยจะมีการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสินค้าใหม่สำหรับการลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้แล้วการเพิ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังเป็นการรองรับบริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) จะเปิดให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงโลหะเงิน หรือ Silver Futures ภายในปีนี้
สำหรับ Silver 99.99% เปิดบริการซื้อขายจนถึงเวลา 24.00 น. ซึ่งเป็นราคา real time อ้างอิงราคาตามตลาดโลกเช่นเดียวกับทองคำ นอกจากนี้ยังมีรายงานสดราคา Silver ผ่านเว็บไซต์ การดูราคา Silver ผ่านมือถือด้วย YLG Application บน iPhone รวมถึงบทวิเคราะห์รายวัน เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ฉับไว และสามารถแนะนำทิศทางการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ามียอดเทรดภายในปีนี้ประมาณ 120 ตัน
“ราคาโลหะเงินและราคาทองคำ มีทิศทางและการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในช่วงนี้สัดส่วนของการปรับขึ้นของราคาโลหะเงินมีมากกว่าราคาทองคำ ขณะที่การปรับลงของราคามีน้อยกว่า เพราะได้รับปัจจัยหนุนหลักจากความต้องการโลหะเงินของประเทศจีนที่สูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2553 อยู่ที่ 10.3% ประกอบกับประชากร ประมาณ 5% ได้ปรับฐานะทางการเงินจากคนยากจนมาเป็นชนชั้นกลาง ส่งผลให้ความต้องการใช้โลหะเงินเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก และใช้ภายในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย โดยปี 2553 มียอดนำเข้าโลหะเงิน 3,500 ตัน มากกว่า 3 เท่าตัวเทียบจากปีก่อนหน้านี้ จากอดีตที่จีนเป็นผู้ส่งออกโลหะเงินมาโดยตลอด” นางพวรรณ์ กล่าว
นางพวรรณ์ กล่าวว่า ราคาโลหะเงิน ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 49 % ในปี 2552 และ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 83 % ในปีที่ผ่านมาหรือปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วถึง 173 % จากระดับราคา 11.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อสิ้นปี 2552 มาอยู่ที่ ระดับ 30.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา สำหรับในปี 54 วายแอลจีประเมินในเชิงบวกโดยคาดว่าราคาโลหะเงินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 24 — 38 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาโลหะเงิน คือแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แม้จะทำให้ความต้องการโลหะเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจะลดลง แต่การความต้องการเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นและจะส่งผลผลักดันให้ราคาโลหะเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงความต้องการโลหะเงินในจีน ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการเพื่อใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ อาทิ นำโลหะเงินมาใช้ในโซล่าเซลล์ ในแบตเตอรี่หรือที่เรียกว่า Silver—zinc batteries ที่เป็นการคิดค้นเพื่อนำไปใช้กับแบตเตอรี่ที่ต้องการคุณภาพสูงอย่างในโน๊ตบุ๊ค และมือถือ นอกจากนี้แล้วในอนาคตโลหะเงินอาจถูกนำไปใช้ในการผลิตรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ราคาโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นด้วย