กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--ก.ส.ล.
นายวันชัย ผโลทัยถเกิง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ก.ส.ล. ในฐานะผู้กำกับดูแล และส่งเสริมพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) มีแผนการเพิ่มปริมาณนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ตัวแทนซื้อขายล่วงหน้า และตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายล่วงหน้า เพื่อรองรับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นใน AFET
หลักเกณฑ์ในการขออนุญาตประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ประเภทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ กรณีผู้ขออนุญาตเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว และกรณีผู้ขออนุญาตเป็นบริษัทจัดตั้งใหม่ ซึ่งหลักเกณฑ์เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า คือ ต้องเข้าเป็นสมาชิก AFET มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท มีระบบงานและความพร้อมในการประกอบธุรกิจ ซึ่งเมื่อ ก.ส.ล. ได้รับคำขออนุญาตแล้ว จะมีการพิจารณาคำขออนุญาต และแจ้งผลการพิจารณากลับไปยังผู้ขออนุญาตภายใน 30 วัน
สำหรับบริษัทที่สนใจเป็นตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายล่วงหน้า (นิติบุคคล) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าในการจัดหาคำสั่งซื้อขายจากลูกค้า ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท และต้องเตรียมความพร้อด้านระบบงานและบุคลากรเกี่ยวกับการติดต่อให้บริการลูกค้าเป็นหลัก ส่วนตัวแทนซื้อขายล่วงหน้า (บุคคลธรรมดา) ต้องมีระดับการศึกษาไม่ตํ่ากว่าอนุปริญญาหรือเทียบเท่า สำเร็จการอบรมเกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าจากสถาบันที่ ก.ส.ล. ให้การรับรอง และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด เช่น ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย เป็นต้น
ผู้ที่สนใจสมัครเป็นนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ตัวแทนซื้อขายล่วงหน้า หรือตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายล่วงหน้า สามารถดาวน์โหลดเอกสารคู่มือการประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าแต่ละประเภทเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ก.ส.ล. www.aftc.or.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายกำกับและพัฒนาธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า โทร. 0-2685-3250 ต่อ 601 หรือ 603 ในวันและเวลาราชการ”
เผยแพร่ในนาม สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวเผยแพร่ฉบับนี้
กรุณาติดต่อที่ศูนย์สารสนเทศและเสริมสร้างความรู้
โทรศัพท์ 0-2685-3250 ต่อ 612 หรือ 207 โทรสาร 0-2685-3259
หรือ http://www.aftc.or.th