PRIN ยิ้มแป้นหุ้น RO ขายหมดเกลี้ยง คุยผู้ถือหุ้นมั่นใจบริษัทและทีมบริหาร

ข่าวทั่วไป Wednesday May 2, 2007 11:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ปริญสิริ
ผู้บริหาร บมจ.ปริญสิริ ปลื้มหุ้นเพิ่มทุน 335 ล้านหุ้น ที่เปิดขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 1.50 บาท ขายได้หมดเกลี้ยง เชื่อเป็นผลมาจากผู้ถือหุ้นมั่นใจบริษัทและทีมบริหาร ประกอบกับราคาขายจูงใจ อีกทั้งมีเป้าหมายชัดเจนระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนักลงทุนในอนาคต
นายนำชัย วนาภานุเบศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN เปิดเผยถึงผลการเปิดจองหุ้นเพิ่มทุน จำนวน335,000,000 หุ้น ที่เปิดเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในสัดส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาขายหุ้นละ 1.50 บาทว่า ปรากฎว่าหลังปิดการจองซื้อพบว่าผู้ถือหุ้นเดิมได้ใช้สิทธิจองซื้อหมดทั้งจำนวน และจ่ายเงินครบถ้วนแล้วจำนวน 502 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีผู้ถือหุ้นบางส่วนสนใจจองซื้อมากเกินความคาดหมาย
"หุ้นเพิ่มทุนของ PRIN รอบนี้ได้รับความสนใจจากผู้ถือหุ้นเดิมเป็นอย่างมาก และที่น่าปลื้มใจคือนอกจากจะจองซื้อครบทั้งจำนวนแล้ว ยังมีบางส่วนที่จองซื้อเกินสิทธิเข้ามาด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าผู้ถือหุ้นให้ความไว้วางใจในตัวบริษัทและทีมบริหาร เป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะก่อนที่จะประกาศเพิ่มทุนทีมบริหารได้พูดคุยและทำความเข้าใจไปบ้างแล้วว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่บริษัท และนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีที่จะกลับคืนมาสู่ ผู้ถือหุ้นในอนาคต ประกอบกับที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่มั่นใจในตัวบริษัทอยู่แล้วด้วย จึงไม่มีปัญหาเรื่องการเพิ่มทุน"
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่หุ้นละ 1.50 บาท ถือเป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคาหุ้นบนกระดานที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้เคียง 3 บาท ซึ่งการกำหนดราคาหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ เป็นเพราะบริษัทฯ ต้องการจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อลงทุนร่วมกันต่อไปในระยะยาว
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า เม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 3 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดฯเดอะคอมพลีท ถนนราชปรารภ โครงการคอนโดฯ เดอะคอมพลีทบริเวณถนนนราธิวาส-ราชนครินทร์ และโครงการคอนโดฯ ที่ถนนพหลโยธิน โดยโครงการทั้ง 3 แห่ง ขณะนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี มียอดจองแล้วประมาณ 60% และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2-3 ปี 2551 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ในปี 2551 รายได้ของบริษัทจะเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างชัดเจน
"ในปีนี้เราได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาทจากรายได้ 2,960 ล้านบาท ในปี 2549 โดยรายได้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด มาจากโครงการแนวราบ ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้วและจะรับรู้จากโครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้ด้วย ขณะที่ในปี 2551 จะเป็นปีที่บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 3 โครงการ เป็นครั้งแรกซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้เติบโตทะลุ 5,000 ล้านบาทได้สำเร็จในปี 2551 "นายนำชัยกล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ