กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--เวิรฟ
ในช่วงเดือนแห่งเทศกาลวาเลนไทน์ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอรักแสนจะโรแมนติกเช่นนี้ หนุ่มสาวหลายคู่ คงกำลังมองหาของขวัญแทนใจที่แฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง ทั้งดอกกุหลาบแดงช่อโต แทนคำพูดของความรักและความปรารถนา เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ หรือช็อกโกแลต ที่รสชาติละมุนลิ้นแทนความหวานของการใช้ชีวิตคู่ หรือแม้แต่ตุ๊กตาหมีที่แสนน่ารัก สร้างความประทับใจทุกครั้งเมื่อได้รับ
แต่อย่างไรก็ตามอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและมีความหมายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของขวัญนานาชนิดก็คือ บรรยากาศรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “ห้องนอน” ตัวช่วยชั้นเยี่ยมในการเพิ่มพูนความโรโมแมนติกให้กับคู่หนุ่มสาวได้เป็นอย่างดี เพราะจากผลวิจัยของนักสังคมวิทยา เชื่อว่าพฤติกรรมและอารมณ์ของมนุษย์จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมหรือบรรยากาศที่อยู่รอบตัว ฉะนั้น คอตตอน ยูเอสเอ องค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมการบริโภคฝ้ายจากประเทศสหรัฐอเมริกา และคอตตอน อินคอร์ปอเรท องค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อการบริการด้านข้อมูลและเทคโนโลยี จึงได้นำเคล็ดลับดีๆ ในการแต่งห้องนอน เติมความหวาน สร้างความ โรแมนติกมาฝากกัน
“แสงและสี” สร้างบรรยากาศ
เมื่อก้าวสู่ห้องนอนประสาทสัมผัสแรกที่คนเราจะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและโรแมนติกคือ แสงและสี เราควรปรับมูดแอนท์โทนในห้องให้ดูผ่อนคลาย สบายตา เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยเริ่มจากแสงสว่าง ลองเลือกโคมไฟสุดชิคที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ห้องวางตามจุดต่างๆ แทนการติดไฟดาวน์ไลท์บนฝ้าเพดาน เพราะแสงไฟอาจแยงตาในขณะนอนหลับได้ ส่วนในยามเช้าที่แสงแดดส่อง ให้ลองหาผ้าม่านชนิดผ้าโปร่ง ที่ให้ความพริ้วไหว เบาสบาย มาเป็นตัวช่วยกรองแสงสว่าง ให้มีแสงแดดลอดเข้ามาได้เพียงส่วนหนึ่ง เลือกโทนสีอ่อน เช่น สีฟ้าเทอควอยส์ สีเขียวไข่กา สีเทาควันบุหรี่ หรือสีม่วงอ่อน ยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศความหวานให้ห้องนอนแสนจะโรแมนติกมากยิ่งขึ้น
“กลิ่นหอม” กระตุ้นความรู้สึก
ปัจจุบันศาสตร์เกี่ยวกับ “กลิ่น” ได้ถูกศึกษาและนำมาใช้ประโยชน์ในบ้านมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่ากลิ่นที่สดชื่นจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้อยู่อาศัย และจะช่วยปรับบรรยากาศให้บ้านดูอบอุ่นและเป็นกันเอง ซึ่งในส่วนของห้องนอน ลองเพิ่มดอกไม้หรือจุดเทียนหอมก่อนนอนสักครึ่งชั่วโมง หลังจากที่ดับเทียนแล้วกลิ่นก็จะยังคงกระจายอยู่ภายในห้อง จะช่วยสร้างความผ่อนคลายได้มากขึ้น โดยหากต้องการบรรยากาศสุดโรแมนติกและสงบ ให้ลองเลือกกลิ่นมวลดอกไม้ธรรมชาติ อย่างกลิ่นดอกมะลิ ดอกลาเวนเดอร์ ดอกมูเกต์ หรือดอกกุหลาบ ที่ให้ความหอมแบบเรียบง่ายและสดชื่น แต่หากต้องความรู้สึกที่ลึกล้ำ น่าค้นหา ให้เลือกกลิ่นที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่น ขมิ้น กำยาน ยางสน หรือกลิ่นอำพัน เพราะกลิ่นประเภทนี้จะลักษณะหอมฉุน ซึ่งช่วยกระตุ้นความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
“เสียง” สื่ออารมณ์
เคยลองสังเกตไหมว่าทำไมบางครั้งที่เราฟังเพลงแล้วรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับเพลงด้วยนั้น เหตุผลคือ เสียงเพลงที่แผ่วเบาจะส่งผลต่อการรับรู้ของสมอง ให้ทำงานได้ช้าลง จนนำไปสู่การผ่อนคลายในที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับดนตรีบำบัดพบว่า ผลของดนตรีสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของชีพจร ความดันโลหิต รวมไปถึงการไหลเวียนของเลือด ฉะนั้นเพลงแนวคลาสสิกเบาๆ หรือเพลงที่มีเสียงธรรมชาติประกอบก็เป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะช่วยขับกล่อมให้คืนอันแสนหวานเป็นคืนที่ผ่อนคลาย สบายๆ แต่อาจลองสร้างความประหลาดใจด้วยเพลงรักโรแมนติกสุดโปรดแทนความรู้สึกที่อยากจะบอก ก็ยิ่งเพิ่มความพิเศษให้กับคืนนั้นได้ดีไม่น้อย
“เครื่องนอน” สร้างสัมผัสแห่งรัก
ปัจจัยสุดท้ายที่ช่วยแต่งแต้มบรรยากาศแห่งความรักให้สมบูรณ์แบบ คือ “สัมผัส” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องนอน เพราะเราใช้เวลามากถึง 1 ใน 3 ของทั้งชีวิตอยู่บนเตียง ดังนั้นก่อนซื้อที่นอนจึงควรลองนอนแล้วดูว่าแบบไหนนอนสบายไม่ปวดหลัง ซึ่งการเลือกซื้อที่นอนไม่มีกฎตายตัว แต่สำคัญคือไม่ควรนิ่มหรือแข็งจนเกินไป และควรเลือกผ้าปูที่นอนเนื้อนุ่มที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติอย่างฝ้ายแท้ 100% ให้สัมผัสเบาสบาย และไม่ระคายเคืองต่อผิว นอกจากนี้ลองเลือกสีโทนอ่อนที่ดูแล้วสบายตา อย่างสีขาว สีฟ้าอ่อน หรือสีชมพูอ่อน จะช่วยทำให้เราพักผ่อนนอนหลับได้ง่ายขึ้น และหากคืนพิเศษอย่างคืนวาเลนไทน์ ดอกไม้ช่อเล็กๆ บนเตียงหรือข้างหมอน ก็เป็นไอเท็มที่สร้างความประทับใจได้ดีเลยทีเดียว
นอกจากเคล็ดลับที่นำมาฝากแล้ว หนุ่มสาวควรรู้จักเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และควรหาเวลาว่าง ออกไปทำกิจกรรมเพื่อสร้างความรักและความเข้าใจให้แน่นแฟ้นยิ่ง เพียงเท่านั้นทุกๆวัน ก็จะเป็นวันแห่งความรักของคุณ