ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 16, 2011 10:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,800 - 19,900 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,373 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 31.67 — 31.70 - GFG11 Hi- Low 20,030 — 19,950 ปิดที่ 20,020 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 9.00 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,374.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,361.30 - 1,377.50 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ทั่วโลก นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุน เข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลบ 41.55 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 12,226.64 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 4.31 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,328.01 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 12.83 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 2,804.35 จุด หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 84.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2553 เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์พลังงานซบเซาในสหรัฐ หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐจะยังคงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดของสหรัฐ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ขายออก 1.52ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,225.53 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,224.01 ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เพราะได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนตลอดวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 1.3487 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3483 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3523 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.760 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 83.280 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.78 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.68-30.71 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.67-30.70 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมกราคม ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% จากระดับ 3.7% ในเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 2 สำนักงานสถิติระบุในแถลงการณ์ว่า 2 ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค. ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 คือการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 17.5% เป็น 20% ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์ก (Empire State Index) เดือนก.พ.พุ่งขึ้น 3.5 จุด แตะระดับ 15.4 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 11.9 จุด โดยดัชนีการผลิตในเดือนก.พ.ยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 14.3 จุด - สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านในสหรัฐยังคงทรงตัวที่ระดับ 16 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ดัชนีเคลื่อนไหวที่ระดับดังกล่าว และสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มผู้สร้างบ้านมีความระมัดระวังในเรื่องแนวโน้มยอดขายบ้านในช่วงหลาย เดือนข้างหน้า อีกทั้งยังบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงซบเซา - ยูโรสแตทรายงานว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร หรือยูโรโซน ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ของปี 2553 ซึ่งเท่ากับอัตราขยายตัวในไตรมาส 3 ขณะที่เศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2553 ขยายตัว 1.7% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2553 และสามารถกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีที่แล้ว หลังจากที่หดตัวถึง 4.1% ในปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย อันเป็นผลมาจากพายุหิมะที่พัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการว่างงาน รวมทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวน้อยเกินคาดของสหรัฐ - สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ.ซึ่งทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนั้น จะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นคาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.3% - ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนม.ค.หลังจากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลจีนในการจัดการกับเงิน เฟ้อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสภาพอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาวที่แผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 15 - 16กุมภาพันธ์2554 วันอังคาร ? Core Retail Sales 0.6% 0.5% 0.3% ? Retail Sales 0.6% 0.5% 0.3% ? EmpireStateManufacturing Index 11.9 14.7 15.4 ? TIC Long-Term Purchases 91.3B 85.1B 65.9B วันพุธ ? Building Permits 0.63M 0.57M ? PPI 1.1% 0.9% ? Core PPI 0.2% 0.2% ? Housing Starts 0.53M 0.55M ? Crude Oil Inventories 1.9M 1.8M ? FOMC Meeting Minutes - - ? Treasury Sec Geithner Speaks - -

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ