กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--พีอาร์ 360 องศา
คมสันต์ ไทยโชว์ชวนย้อนยุคไปกับละครตำนานประชันปี่พาทย์ “ชนราง” อาทิตย์ที่ 20 และ 27 กุมภาพันธ์นี้
คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ชวนคุณผู้ชมย้อนยุคกลับไปเกือบ 50 ปีที่แล้วสัมผัสเรื่องราวของตำนานการประชันปี่พาทย์ “ชนราง” ผ่านบทละครและการแสดงของ ป๋อม-ชัยยุทธ โตสง่า ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรี ประจำปี พ.ศ. 2553 ในรายการไทยโชว์ ตอน ชนราง วันอาทิตย์ที่ 20 และ 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 18.00 น. ทางทีวีไทย
“ชนราง ถือว่าเป็นรูปแบบเฉพาะอย่างหนึ่งของการประชันปี่พาทย์ในอดีตที่เรียกว่าตาต่อตา-ฟันต่อฟัน คือนักดนตรีจะยกเครื่องดนตรีที่จะเล่นเดี่ยว [Solo]อย่างเช่น ระนาดเอก ฆ้องใหญ่ฯ มาไว้กลางเวทีหรือกลางศาลาวัด แบบหันหน้าชนกัน ระยะห่างไม่เกิน 3 ศอก แล้วก็จะเดี่ยวดวลเพลงกันแบบเพลงต่อเพลง ท่อนต่อท่อน หรือแก้ทาง แก้เพลงกันขณะนั้นทันที ซึ่งผมคิดว่านักดนตรีที่จะเก่งกล้าโชว์ความสามารถได้ขนาดนั้นต้องมีใจที่เด็ดเดี่ยวแข็งแกร่งมาก มีประสบการณ์ชั่วโมงบินในการเล่นดนตรีเพลงหมู่ เพลงเดี่ยวมายาวนาน ฐานวิชาความรู้ต้องแน่นเปรี๊ยะ ฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักหน่วง มีครูบาอาจารย์หรือพี่เลี้ยงที่เก่งกาจคอยชี้แนะ และมีปฏิภาณไหวพริบดี ความสามารถเฉพาะตัวเยี่ยม แก้ปัญหาเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างดี โดยไม่หวั่นไหวฝีมือคู่ต่อสู้และกองเชียร์นับพัน”
แต่หัวใจสำคัญของการประชัน หรือการชนรางที่รายการไทยโชว์ต้องการนำเสนอให้เห็นแก่นแท้ก็คือ “การมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ ให้อภัย และสามัคคีกัน” เพราะนักดนตรีไทยทุกคนก็คือพี่น้องกัน มีความรักหวงแหนในสิ่งเดียวกันนั่นคือดนตรี เหมือนกับที่คุณครูผู้ใหญ่ที่เป็นนักระนาดเอกทั้งสองท่าน ได้ทำให้ดูเป็นเยี่ยงอย่างครับ” คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ เล่ารูปแบบของการ “ชนราง” ให้ฟังอย่างอออกรสชาด
“การประชันปี่พาทย์แบบ “ชนราง” เกิดขึ้นจริงเมื่อประมาณครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาและเป็นตำนานกล่าวขานกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคุณผู้ชมจะได้รับฟังข้อมูลความรู้จากการสัมภาษณ์ครูบาอาจารย์บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ชนรางจริง อาทิ อ.ธีระศักดิ์ ชุ่มชูศาสตร์,อ.สืบศักดิ์ ดุริยประณีต, อ.ชลอ ใจชื้น, ร้อยตรีอนันต์ ดุริยพันธุ์, คุณลุงรอง-ปราโมทย์ คหินทพงษ์ อ.ถาวร สดแสงจันทร์, อ.ประดิษฐ์ สดแสงจันทร์ และอ.ประสิทธิ์ อินทรพิพัฒน์ เป็นต้น
แต่เพื่อให้การเล่าเรื่องราวมีอรรถรสจึงถ่ายทอดเป็นละครโทรทัศน์สองตอน โดยป๋อม-ชัยยุทธโตสง่า ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรี ประจำปี พ.ศ. 2553 เป็นผู้ประพันธ์บทและแสดงด้วย ..เราไปถ่ายทำกันที่วัดเจ้าเจ็ดใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับเหตุการณ์ ชนราง ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ใช้เวลาถ่ายทำกันชั่วข้ามคืนก็สำเร็จเสร็จแปดฉาก มีศิลปินนักดนตรีนับร้อยทุ่มใจเกินร้อยชีวิตร่วมเข้าฉากประวัติศาสตร์ ซึ่งคุณผู้ชมดูแล้วอาจเข้าใจว่า ทุกคนเป็นนักแสดงมืออาชีพจริงๆ
เรื่องย่อของละครชนรางมีอยู่ว่า “เมื่อนักระนาดหนุ่มจากพระนครกล้าต่อกรกับนักระนาดหนุ่มภูธร สิงห์สามจังหวัด ตามคำเชิญของเจ้าภาพที่อยากชมการประชันปี่พาทย์ในงาน..วงปี่พาทย์ทั้งสองฝ่ายก็ต่างซุ่มซ้อมเพื่องัดกลเม็ดเด็ดพรายที่จะเอามาอวดฝั่งตรงข้ามและคนดูกัน ...เมื่อวันประชันมาถึง ผู้คนก็แห่มาดูการประชันนับพันจนล้นศาลลาวัด ปี่พาทย์ทั้งสองวงเริ่มต้นเล่นเพลงบรรเลงหมู่อุ่นเครื่องสลับกันจนท้ายสุดก็มีการท้าทายและยกระนาดของทั้งสองฝ่ายมาตั้งหันหน้าชนกันกลางศาลาวัด.....เหตุการณ์จะดุเดือดเข้มข้นขนาดไหน...ต้องติดตามชมในรายการไทยโชว์ครับ”คมสันต์ สุทนต์ เล่าปิดท้ายโชว์
พลาดไม่ได้ ชมรายการไทยโชว์ตอน ชนราง วันอาทิตย์ที่ 20 และ 27 กมุภาพันธ์ 2554 เวลา 18.00 น. ทางทีวีไทย
ชมรายการไทยโชว์ย้อนหลังทาง www.thaipbs.or.th/Thaishow