ดีแทค จับมือ 6 แบงก์ใหญ่ เปิดตัว “สบาย เปย์” สร้างเทรนด์ใหม่เพื่อความสะดวกสบายในการชำระค่าบริการรายเดือน

ข่าวทั่วไป Wednesday January 10, 2007 17:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--ดีแทค
ดีแทค จับมือ 6 แบงก์ใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารยูโอบี ไทยธนาคาร และธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัว “สบาย เปย์” (Sabai Pay) เทรนด์ใหม่ล่าสุดในการให้บริการชำระเงินของอุตสาหกรรมธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรายเดือน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งของลูกค้า พร้อมแนะนำ “เอทีเอ็ม เรียลไทม์” บริการที่จะเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มกว่า 14,000 ตู้ทั่วประเทศให้เป็นเสมือนจุดชำระค่าบริการโพสต์เพดแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเปิดกว้างให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินชำระค่าบริการได้ทันทีผ่าน 1678 คอลล์เซ็นเตอร์ เพื่อตัดค่าบริการผ่านบัตรเครดิตวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดของทุกธนาคาร
นายสันติ เมธาวิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ในปีนี้ดีแทคโพสต์เพดจะใช้กลยุทธ์ 3C ซึ่งประกอบด้วย Call, Care, และ Convenience ในการดำเนินธุรกิจ โดยบริการ “สบาย เปย์” ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเปลี่ยนความสะดวกสบาย (Convenience) ไม่ให้เป็นเพียงนามธรรม แต่ให้ลูกค้าสามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรมในรูปแบบของบริการที่จะช่วยให้การชำระเงินเป็นไปได้โดยสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการสร้างนวัตกรรมบริการอย่างต่อเนื่อง บริการ “สบาย เปย์” ได้รับการพัฒนาและวางตัวให้เป็นโครงสร้างใหญ่ของการให้บริการชำระเงินของระบบโพสต์เพด ซึ่งจะมีบริการย่อยหลากหลายที่จะทยอยพัฒนาและเปิดให้บริการตามมาในอนาคต
โดยในจุดเริ่มต้นนี้ ดีแทคได้พัฒนาระบบ “เอทีเอ็ม เรียลไทม์" ที่จะให้ผู้ใช้บริการสามารถทำรายการชำระเงินผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารใหญ่ทั้ง 6 แห่งที่มีอยู่ทั่วประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน บริษัทได้เปิดให้บริการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตผ่าน 1678 คอลล์เซ็นเตอร์ เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ สามารถชำระเงินในกรณีเร่งด่วนผ่านพนักงานได้ตลอดเวลา
“ทุกครั้งที่มีการชำระเงินไม่ว่าจะผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ ลูกค้าจะได้รับ SMS เพื่อยืนยันการจ่ายเงิน และเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้กับลูกค้า ดีแทคเชื่อมั่นว่าต่อไปในอนาคต SMS จะกลายเป็นมาตรฐานเพื่อใช้ยืนยันการทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภท สิ่งที่เราทำอยู่ในขณะนี้นอกเหนือจากการเป็น trend setter แล้ว นี่คือการนำร่องรูปแบบการชำระเงินแบบใหม่ของอุตสาหกรรมมือถือแบบโพสต์เพด การพัฒนาบริการนี้ดีแทคใช้จุดแข็งด้านแรงสนับสนุนจากพันธมิตร เพื่อพัฒนาบริการที่แตกต่างและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในปีนี้” นายสันติกล่าว
ปัจจุบันลูกค้าโพสต์เพดจำนวนประมาณ 20% ใช้บริการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร และจุดรับชำระต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ดีแทคช็อป ดังนั้น เมื่อบริการชำระเงินแบบใหม่เกิดขึ้น ยอดของผู้ชำระเงินในส่วนนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในสิ้นปีนี้
นายบุญเกียรติ ชาติอุดมเดช ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจโพสต์เพดดีแทค กล่าวว่า ในความร่วมมือครั้งนี้ ดีแทคและธนาคารใหญ่ทั้ง 6 แห่งได้ร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการเชื่อมโยงระบบออนไลน์เข้ากับระบบ Billing System เพื่อให้สามารถสร้างบริการที่เป็นแบบ “เรียลไทม์” อย่างแท้จริงสำหรับผู้บริโภค
ในการใช้บริการชำระเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ลูกค้าสามารถเลือกการชำระเงินได้จากเมนูบนหน้าจอ หลังจากนั้นระบบจะให้ใส่ตัวเลขเบอร์โทรศัพท์ และทำการยืนยันการชำระก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ ทั้งนี้ บริการการชำระเงินผ่านระบบ “เอทีเอ็ม เรียลไทม์” จะต่างจากการชำระค่าบริการผ่านตู้เอทีเอ็มตามปกติ เนื่องจากทันทีที่ผู้ใช้บริการชำระค่าบริการผ่านตู้เอทีเอ็ม ระบบจะตัดเงินจากบัตรเอทีเอ็ม และดำเนินการโอนเงินโดยอัตโนมัติในทันที เมื่อโอนเงินเสร็จ ผู้ใช้บริการจะได้รับ SMS เพื่อยืนยันการทำธุรกรรมทันที แทนที่จะต้องใช้เวลา 2 วันทำการในการโอนเงินเข้าสู่บัญชีชำระ
“ในกรณีที่ผู้ใช้มือถือถูกระงับสัญญาณ ก็สามารถจ่ายเงินที่ตู้เอทีเอ็ม และได้รับการต่อสัญญาณภายใน 30 นาที ซึ่งโดยปกติ การต่อสัญญาณจะสามารถทำได้ต่อเมื่อผู้ใช้ไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์บริการเท่านั้น สำหรับค่าธรรมเนียมในการต่อเลขหมายจะถูกตัดไปคิดรวมในยอดชำระครั้งถัดไป ส่วนผู้ที่ครบกำหนดการชำระ (due date) ในวันนั้น ๆ ก็สามารถจ่ายเงินที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อเคลียร์ยอดการชำระได้ในทันทีแบบเรียลไทม์” นายบุญเกียรติกล่าว
นอกเหนือจากการจ่ายเงินค่าบริการเร่งด่วนเมื่อถึงเวลานัดชำระ และการจ่ายเงินเพื่อขอต่อสัญญาณโทรศัพท์แล้ว ผู้ใช้ที่ใช้บริการครบวงเงินที่กำหนด สามารถจ่ายเงินค่าบริการบางส่วน (Partial Payment) เพื่อให้สามารถใช้บริการต่อไปได้ที่ตู้เอทีเอ็มเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ผู้ใช้สามารถที่จะจ่ายเงินค่าใช้บริการล่วงหน้า (Advanced Payment) ก่อนที่จะได้รับใบแจ้งค่าบริการที่ตู้เอทีเอ็มได้เช่นเดียวกัน โดยส่วนที่มีการจ่ายเกิน จะได้รับการบันทึกเพื่อนำไปหักออกจากยอดค่าใช้บริการในรอบบิลถัดไป โดยลูกค้าสามารถใช้บริการนี้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับการชำระเงินผ่าน 1678 คอลล์เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเริ่มให้บริการ 1 ก.พ. ศกนี้ ลูกค้าสามารถโทรหาพนักงานเพื่อขอจ่ายค่าบริการผ่านบัตรเครดิตได้ตลอดเวลา ซึ่งหากลูกค้าเคยชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ด้วยบัตรเครดิต พนักงานจะสามารถเรียกข้อมูลบัตรเพื่อดำเนินการชำระได้ทันที สำหรับผู้ที่ไม่เคยชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต จะต้องผ่านขั้นตอนการสมัครเบื้องต้นกับพนักงานซึ่งจะเปิดการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตให้ได้ทันที.
Name List, (from left to rigth, respectively)
Mr.Werachart Wahawisan, Senior Vice president information technology operation Department, Bank of Ayudhya Public Company Limited
Ms.Chooporn Chantaravichai, Executive vice president-cash management, Bangkok Bank Public Company Limited
Mr.Ampol Polohakul, First senior vice president, Kasikornbank Pubilc Company Limited
Mr.Sunti Medhavikul, Chief Customer Officer, Total Access Communication Public Company Limited
Mr.Boonyagiad Chatudomdej, Unit Head - Postpaid Unit, Total Access Communication Public Company Limited
Mr.Sigve Brekke, Chief Executive Officer, Total Access Communication Public Company Limited
Mr.Charamporn Jotikkasthira, Executive vice president business cash management group, Siam Commercial Bank Public Company Limited
Mr.Nuekruk Baingern, Executive vice president Retial banking operation & E-Banking, Bankthai Public Company Limited
Mr.Korakot Tipayaosot, Vice President Cash Management Division, United Overseas Bank (Thai) Public Company Limited
For more information, please contact
Customer
1678 DTAC Call Center
Press
Media Relations Unit - DTAC
Matchima 081-655-2173, Ponnana 081-623-9895, Suchalee 081-710-9879, Pimpakarn 081-614-9828, Siriporn 081-612-9809, Tasanee 081-658-6560
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ