กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--IR PLUS
PYLON เจ๋ง! คว้างานก่อสร้างใหม่อีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 130.20 ล้านบาท ดัน Backlog พุ่งใกล้แตะ 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ทันทีในไตรมาส 1/2554 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/2554 พร้อมเตรียมเข้าประมูล งานใหม่ทั้งรัฐและเอกชน มูลค่าอีก 800 ล้านบาท หวังรักษาสัดส่วน 50:50 โฟกัสทุกโครงการรถไฟฟ้าในช่วงที่เหลือของปี ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้วางไว้ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 600 ล้านบาท
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างฐานรากประเภทเสาเข็มเจาะระดับแนวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างฐานรากมีการขยายตัวอย่างโดดเด่นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้ได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับว่าจ้างงานก่อสร้างโครงการเพิ่มเติมอีก 11 โครงการ รวมมูลค่า 130,203,490.08 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นการรับงานเสาเข็มเจาะสำหรับงานอาคาร ส่งผลให้บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้(Backlog) เพิ่มขึ้นเป็นใกล้เคียง 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาส 1/2554 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/2554
ทั้งนี้ โครงการใหม่ดังกล่าว ประกอบด้วย 1. โครงการ SPRC Clean Fuels ของ Bechtel International, Inc.ระยะเวลาก่อสร้าง 45 วัน 2. โครงการลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์ — พระราม 3 ของ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ระยะเวลาก่อสร้าง 63 วัน 3.โครงการ TH Project Samsung Electro Mechanics ของ บริษัท ซัมซุงไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 55 วัน 4. โครงการ The Trust Residence Pinklao ของ บริษัท พรี บิลท์ จำกัด(มหาชน) หรือ PREB ระยะเวลาก่อสร้าง 83 วัน 5. โครงการจุฬานิวาส ของบริษัท ฟิวเจอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 38 วัน
6. โครงการ The Leaf Comdominium ของบริษัท บ้านกรองทอง จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 68 วัน 7. โครงการ VOQUE Sukhumvit 31 ของ บริษัท อพอลโล่ แอสเซ็ท จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 43 วัน 8. โครงการ Urbano Absolute ของบริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ระยะเวลาก่อสร้าง 60 วัน
9. โครงการ Centric Ratchada — Suthisarn ของบริษัท เอส ซี แอสเซ็ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ระยะเวลาก่อสร้าง 53 วัน10. โครงการ VIA 31 Condominium และ 11. โครงการ VIA 49 Condominium ของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระยะเวลาก่อสร้าง 53 วัน และ 43 วันตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานก่อสร้างใหม่อีกมูลค่ารวม 800 ล้านบาท โดยจากประสบการณ์การทำงานและสถิติในการรับงานที่ผ่านมา คาดว่าจะได้รับงานในสัดส่วนมากกว่า 30% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ รับงานภาคเอกชนสัดส่วน 60% และรับงานภาครัฐ สัดส่วน 40% โดยทั้งปีนี้ บริษัทฯ จะพยายามรักษาสัดส่วนการรับงานภาครัฐให้ได้สัดส่วน 50% และภาคเอกชน 50% เนื่องจากประเมินว่าในครึ่งหลังของปี 2554 ภาพการลงทุนก่อสร้างในภาครัฐชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าร่วมทุกโครงการ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่คาดว่าเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ และอาจจะเริ่มก่อสร้างประมาณไตรมาส 3/2554ซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทฯ เช่นกัน
นายบดินทร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2554 คาดว่ามีโอกาสออกมาในทิศทางที่ดีกว่าไตรมาส 4/2553 เพราะได้รับปัจจัยบวกจากงานก่อสร้างที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง ดังนั้น ทั้งปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่คาดว่าทำได้ 600 ล้านบาท
ข้อมูลบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากงาน แบ่งออกเป็น 3 สายงานหลัก ดังนี้ คือ
1. งานเสาเข็มเจาะ (Bored Pile) เสาเข็มเจาะเป็นเสาเข็มที่นิยมใช้กับการก่อสร้างฐานรากของโครงสร้างขนาดใหญ่ และโครงสร้างอาคารในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้เสาเข็มเจาะยังลดมลภาวะเรื่องเสียงและแรงสั่นสะเทือนเมื่อเทียบกับการใช้เสาเข็มตอกการก่อสร้างเสาเข็มเจาะนั้นสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ จากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 50 เซนติเมตร จนถึงมากกว่า 1 เมตรขึ้นไป และทำได้ถึงความลึกมากกว่า 60 เมตร ขึ้นอยู่กับการออกแบบกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มโดยวิศวกร และสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่
2. งานปรับปรุงคุณภาพดิน (Ground Improvement) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับโครงสร้างของดินเดิม ทำให้ดินมีกำลังรับน้ำหนักมากขึ้นและป้องกันการเคลื่อนตัวของดิน โดยบริษัทมีการให้บริการงานประเภทนี้โดยวิธีการอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง (Jet Grouting) ที่ความดันประมาณ 200 ถึง 400 บาร์ และ 3.งานก่อสร้างกำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรม (Diaphragm Wall) กำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรมเป็นการก่อสร้างกำแพงโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักและป้องกันการเคลื่อนตัวของดินทางด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเป็นโครงสร้างของชั้นจอดรถใต้ดิน กำแพงอาคารผู้โดยสารสำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และอุโมงค์ลอดทางแยก เป็นต้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) Tel.02-5549395
E-mail : jurarat@irplus.in.th