กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--โกลบ์เบิล ครีเอชั่น
ถือว่าจบได้อย่างสวยงาม สำหรับทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.2% และ 7.9% ตามลำดับ เป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดีมาก ซึ่งจะส่งอานิสงส์ต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน ปี 2554 โดยกูรูเศรษฐกิจสำนักต่างๆ ได้ออกมาวิเคราะห์ไปในทิศทางที่ดี สรุปว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปีกระต่าย จะเป็นกระต่ายทอง ไม่ใช่กระต่ายตื่นตูม แน่นอน
นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. ออกมาวิเคราะห์แนวโน้มอัตราการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในปี 2554 ว่า ปีกระต่ายทองภาคอุตสาหกรรมไทยมีโอกาสขยายตัวได้สูงอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่หวือหวาเท่ากับปี 2553 ที่ขยายตัวได้ 12-13% เนื่องจากฐานตัวเลขที่ขยายตัวสูงหลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่จะเป็นการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งล่าสุด โดย สศอ.คาดว่าอัตราการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 6-8% อัตราการใช้กำลังการผลิตจะอยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 64-66% โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดอาเซียนด้วยกันมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ทำให้เศรษฐกิจอุตสาหกรรมจะมีการขยายตัวอย่างมีคุณภาพและมีเสถียรภาพมากขึ้น หากไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นมากระทบ
โดยปัจจัยภายในประเทศนั้นยังมีทิศทางที่ดี ทั้งการลงทุนของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชนจะฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมา การจ้างงานในระบบจะมีอัตราการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมไทย ที่เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปทั่วโลก อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลต่อการขยายตัวมีหลายสาขา เช่น การผลิตรถยนต์คาดว่าจะสามารถผลิตได้ประมาณ 1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12.50% จำหน่ายในประเทศประมาณ 800,000 คัน ส่งออกประมาณ 1 ล้านคัน อุตสาหกรรมอาหารแม้จะประสบปัญหาทางด้านวัตถุดิบแต่ก็คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.3 ขณะที่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ คาดว่าจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลทำให้การใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น
นางสุทธินีย์ ยังได้สรุปภาพรวมของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในปี 2553 พร้อมเจาะลึก 10 อันดับสินค้าส่งออกรายตลาดอย่างน่าสนใจ ดังนี้
ภาพรวมการส่งออกปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกรวม 195,311.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 28.1% โดยสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าการส่งออก 150,090.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 28.9% และหากไม่รวมทองคำแท่งมีการส่งออกขยายตัว 29.7% โดยเป็นผลมาจากตลาดอาเซียนที่ขยายตัวดี คือขยายตัว 33.1% ขณะที่ตลาดจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป(27) และสหรัฐอเมริกาที่มีการปรับขยายตัวร้อยละ 30.8, 41.9, 30.4, 22.4 และ23.4 ตามลำดับ สอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยสินค้าอุตสาหกรรมสาคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักทำให้การส่งออกขยายตัวเป็นสินค้าในกลุ่มยานยนต์ เครื่องอิเล็คทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ รวมถึงสิ่งทอ ก็ปรับขยายตัวได้ดี
TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดอาเซียน ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)
ลำดับ สินค้า มูลค่าส่งออก อัตราการขยายตัว
(มูลค่า: ล้านเหรียญ) (%)
1 รถยนต์และอุปกรณ์ส่วนประกอบ 4,731.7 53.05
2 เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ 2,455.0 23.29
3 แผงวงจรไฟฟ้า 1,866.9 20.31
4 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 1,752.4 53.54
5 เคมีภัณฑ์ 1,738.8 32.65
6 เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 1,556.9 23.80
7 เม็ดพลาสติก 1,434.5 47.81
8 ผลิตภัณฑ์ยาง 1,071.7 32.58
9 เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ 1,052.5 44.17
10 เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว 846.2 19.74
TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดจีน ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)
ลำดับ สินค้า มูลค่าส่งออก อัตราการขยายตัว
(มูลค่า: ล้านเหรียญ) (%)
1 เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ 5,036.7 16.40
2 เคมีภัณฑ์ 1,790.4 31.68
3 เม็ดพลาสติก 1,631.5 50.75
4 ผลิตภัณฑ์ยาง 1,412.0 80.12
5 แผงวงจรไฟฟ้า 807.7 9.72
6 ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 642.8 60.01
7 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ 474.6 41.59
8 มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 265.5 29.37
9 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 254.5 81.50
10 เลนส์ 249.4 101.41
TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดฮ่องกง ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)
ลำดับ สินค้า มูลค่าส่งออก อัตราการขยายตัว
(มูลค่า: ล้านเหรียญ) (%)
1 อัญมณีและเครื่องประดับ 2,584.1 35.12
2 แผงวงจรไฟฟ้า 2,119.9 69.77
3 เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ 2,117.7 44.96
4 หนังสือและสิ่งพิมพ์ 1,885.5 42.23
5 เม็ดพลาสติก 534.3 13.46
6 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ 356.8 40.73
7 อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ 227.1 39.34
8 เลนส์ 198.4 127.84
9 หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 144.7 75.48
10 ผลิตภัณฑ์ยาง 143.7 -13.59
TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดญี่ปุ่น ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)
ลำดับ สินค้า มูลค่าส่งออก อัตราการขยายตัว
(มูลค่า: ล้านเหรียญ) (%)
1 เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ 1,231.6 21.58
2 รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ 1,203.3 116.62
3 แผงวงจรไฟฟ้า 960.5 8.10
4 ผลิตภัณฑ์พลาสติก 567.4 25.73
5 เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว 549.2 99.23
6 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ 532.6 20.69
7 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 528.2 56.49
8 เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ 480.0 27.12
9 ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม 456.4 12.54
10 เม็ดพลาสติก 435.0 58.41
TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดสหภาพยุโรป ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)
ลำดับ สินค้า มูลค่าส่งออก อัตราการขยายตัว
(มูลค่า: ล้านเหรียญ) (%)
1 เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ 2,800.6 12.81
2 อัญมณีและเครื่องประดับ 1,509.3 22.34
3 รถยนต์อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบ 1,097.1 88.50
4 เครื่องนุ่งห่ม 1,013.8 4.69
5 เครื่องรับโทรทัศน์และส่วนประกอบ 975.4 21.40
6 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ 840.1 10.47
7 ผลิตภัณฑ์ยาง 826.2 28.77
8 เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 763.9 46.74
9 แผงวงจรไฟฟ้า 757.4 26.88
10 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 554.4 74.74
TOP 10 สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกตลาดสหรัฐอเมริกา ปี 2553 (เทียบกับปี 2552)
ลำดับ สินค้า มูลค่าส่งออก อัตราการขยายตัว
(มูลค่า: ล้านเหรียญ) (%)
1 เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ 3,302.8 12.11
2 เครื่องนุ่งห่ม 1,262.5 7.26
3 ผลิตภัณฑ์ยาง 1,258.4 45.27
4 อัญมณีและเครื่องประดับ 1,095.6 30.31
5 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ 1,051.7 38.66
6 เครื่องรับโทรทัศน์และส่วนประกอบ 801.3 18.88
7 แผงวงจรไฟฟ้า 556.1 15.24
8 เครื่องคอมเพรสเซอร์ 390.0 409.36
9 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 363.1 23.50
10 เครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์ 357.4 50.06
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพานิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร