ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 17, 2011 12:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,850 - 19,950 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,377 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 31.59 — 31.62 - GFG11 Hi- Low 20,080 — 20,020 ปิดที่ 20,040 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 1.00 ดอลลาร์ แตะที่ 1,375.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,368.3 - 1,382.7 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเยเมนและลิเบีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากจีนและอังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลบ 41.55 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 12,226.64 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 4.31 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,328.01 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 12.83 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 2,804.35 จุด หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 67 เซนต์ ปิดที่ 84.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากมีรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในตะวันออกกลาง รวมถึงลิเบีย และหลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลอ้างว่า อิหร่านเตรียมส่งเรือรบ 3 ลำเดินทางผ่านคลองสุเอซเพื่อมุ่งหน้าไปยังซีเรีย กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถือครองเท่าเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ที่ระดับ 1,224.01 ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.56% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3564 ยูโร จากระดับ 1.3489 ยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3599 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐยังร่วงลง 0.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.660 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 83.750 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.57 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.62-30.65 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.59-30.62 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 14.6% แตะที่ 596,000 หลัง ทำสถิติเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 20 เดือน และมากกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 535,000 หลัง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้าน ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้าน ร่วงลง 10.4% ในเดือนม.ค. มาอยู่ที่ระดับ 562,000 หลัง - กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นน้ำมันดิบ ส่งผลให้ราคาสินค้าประเภทอื่นๆในสหรัฐปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ - สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือซีพีไอเดือนม.ค.พุ่งแตะ 4.0% จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 2% - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ของสหรัฐ หดตัวลง 0.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติทำให้ผลผลิตด้านสาธารณูปโภคปรับตัวลดลง ขณะที่ผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ประจำวันที่ 25-26 ม.ค. โดยระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ระดับ 3.9% ในปีนี้ รายงานการประชุมระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นไปอย่างยื่งยันและจะค่อยๆขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า โดยคณะกรรมการเฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 เป็น 3.4-3.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 3-3.6% นอกจากนี้ เฟดยังได้คงระดับคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2555 ว่าจะขยายตัว 3.5-4.4% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2556 จะขยายตัว 3.7-4.6% - ประชาชนจำนวนมากในเยเมนและลิเบียได้ออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้นำ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลอ้างว่า อิหร่านเตรียมส่งเรือรบ 3 ลำเดินทางผ่านคลองสุเอซเพื่อมุ่งหน้าไปยังซีเรีย - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นุด ณ วันที่ 11 ก.พ.เพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล แตะที่ 345.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้จะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล - กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ต่างชาติได้ถือครองตราสารหนี้ระยะยาวของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 25.8% แตะที่ 4.37 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2553 อย่างไรก็ตาม จีนได้ลดการถือครองตราสารหนี้ของสหรัฐติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 16 - 17กุมภาพันธ์2554 วันพุธ ? Building Permits 0.63M 0.57M 0.56M ? PPI 1.1% 0.9% 0.8% ? Core PPI 0.2% 0.2% 0.5% ? Housing Starts 0.53M 0.55M 0.60M ? Crude Oil Inventories 1.9M 1.8M 0.9M ? FOMC Meeting Minutes - - - ? Treasury Sec Geithner Speaks - - - วันพฤหัสบดี ? Core CPI 0.1% 0.1% ? Unemployment Claims 383K 401K ? CPI 0.5% 0.3% ? Fed Chairman Bernanke Testifies - - ? Philly Fed Manufacturing Index 19.3 20.8

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ