กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--อาร์ค เวิลดไวด์
แคนนอน อิงค์ และแคนนอน มาร์เก็ตติ้ง ประเทศญี่ปุ่น ร่วมประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่สามารถผลิตเลนส์ในตระกูล EF (Electro Focus) ครบ 60 ล้านตัว ที่รุ่น EF70-300mm f/4-5.6L IS USM เมื่อเดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมา
โดยจุดเริ่มต้นการผลิตเลนส์ชนิดถอดเปลี่ยนได้ในตระกูล EF สำหรับกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์ EOS ของแคนนอนเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2530 หรือเมื่อ 24 ปีที่แล้ว ณ โรงงานในเมืองอุสึโนมิยะ ประเทศญี่ปุ่นและเริ่มขยายสาขาการผลิตออกไปเป็น 4 แห่งด้วยกันคือโรงงานผลิต ณ แคนนอน อิงค์ ประเทศไต้หวัน, แคนนอน ออปโต ประเทศมาเลเซีย.และโรงงานผลิต ณ เมืองโอไอตะ แคนนอน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น โดยหลังจากเริ่มการผลิตได้ประมาณ 8 ปีครึ่ง แคนนอนก็สามารถผลิตเลนส์ EF ออกสู่ตลาดได้ครบ 10 ล้านตัว และเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 ยอดการผลิตก็ทะยานพุ่งสูงขึ้นถึง 40 ล้านตัว ภายในระยะเวลาช่วง 1 ปี นอกจากนี้แคนนอนยังสามารถผลิตเลนส์เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดกล้อง D-SLR ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถแตะยอด 50 ล้านตัวภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 และล่าสุดด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปีกับอีก 1
เดือน แคนนอนก็สามารถเฉลิมฉลองยอดการผลิตเลนส์ตระกูล EF ที่ 60 ล้านตัว ในเดือนมกราคม ปี 2554 ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่ปีหลังจากเริ่มต้นการผลิตเมื่อปี 2530 เลนส์ EF ของแคนนอนก็กลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบกล้อง D-SLR ด้วยการสร้างสรรค์สุดยอดนวัตกรรม[1] อาทิ มอเตอร์ขับเคลื่อนชิ้นเลนส์แบบ Ultrasonic Motor-powered lens (USM) ซึ่งทำงานได้เงียบและรวดเร็ว, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วยเทคโนโลยี Image Stabilizer (IS), ระบบป้องกันแสงแฟลร์ด้วย Subwavelength Structure Coating (SWC) และการพัฒนาชิ้นเลนส์พิเศษเพื่อความสมจริงของภาพและความละเอียดนุ่มนวลของภาพดังที่ตาเห็น diffractive optical element
และปีที่ผ่านมา แคนนอนได้เปิดตัวเลนส์ฟิชอายส์ที่มีมุมรับภาพกว้าง 180 องศา ให้ภาพถ่ายมีมุมมองพิเศษ แปลกตา บันทึกภาพได้กว้างไกล รุ่น EF8-15mm f/4L Fisheye USM ซึ่งออกสู่ตลาดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบันแคนนอนผลิตเลนส์รวมทั้งสิ้นกว่า 65 โมเดล[2] เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลายตั้งแต่เลนส์แบบมุมกว้างสูงพิเศษ (super-wide-angle lenses) ไปจนถึงเลนส์แบบกำลังขยายสูงพิเศษ (super-telephoto zoom lenses), เลนส์ชนิด Image Stabilizer-equipped, เลนส์แบบ large-diameter, macro-lenses รวมไปถึง TS-E เลนส์ที่ช่วยขยายขอบเขตในการถ่ายภาพสร้างสรรค์ด้วยมุมมองพิเศษ เป็นต้น
โดยแคนนอนจะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการมองภาพเพื่อสรรค์สร้างเลนส์คุณภาพเยี่ยมตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่รักการถ่ายภาพในทุกระดับตั้งแต่มือสมัครเล่น กึ่งโปรเฟสชั่นนอลไปจนถึงระดับมืออาชีพ ควบคู่ไปกับการเติบโตของกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์ EOS ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
ฝ่ายการตลาด บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
บุษรินทร์ ตั้งศิลปโอฬาร (เกด) / โทร 02 — 344-9999 Ext.305
อาร์ค เวิลดไวด์ ประเทศไทย
พัชริดา จิรภิญโญ (นก) / โทร 02-684-5589
ญาดา ศรีสัมมาชีพ (นุ่น) / โทร 02-684-5690
[1] เฉพาะเลนส์ถอดเปลี่ยนได้ของกล้อง DSLR
[2] รวม EF เลนส์เสริม 2 ชนิดและโมเดลอื่นๆนอกเหนือจากในประเทศญี่ปุ่น