กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
เบบี้มายด์ ตอกย้ำจุดยืนผู้นำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อทารกปลุกกระแส “สัญชาตญาณความเป็นแม่ สิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ” ในสังคมไทย พร้อมชื่นชมคุณแม่ยุคใหม่ที่กล้าและฉลาดเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดจากธรรมชาติเพื่อลูก
เบบี้มายด์ เบอร์ 1 ตลาดสินค้าเพื่อเด็กของเมืองไทย เปิดตัวแคมเปญ “สัญชาตญาณความเป็นแม่ สิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ” กระตุ้นแม่ทั่วไทยเผยพลังแห่งสัญชาตญาณ เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด จากธรรมชาติสู่ลูก ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ คืนสู่สังคม
คุณต้องหทัย กุวานนท์ ผู้อำนวยการ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำภาพผู้นำแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อเด็กจากธรรมชาติ ล่าสุด เบบี้มายด์ ได้เปิดตัวแคมเปญ “สัญชาตญาณความเป็นแม่ สิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ” เพื่อปลุกกระแสพลังแห่งรักของแม่ผ่านสัญชาตญาณความเป็นแม่ให้แก่หญิงยุคใหม่ที่ปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ที่ต้องทำงาน ทั้งในบ้านและนอกบ้าน อาจทำให้มีเวลาให้ลูกน้อยลง ความผูกพันธ์ระหว่างแม่กับลูกจึงน้อยลงไปเช่นกัน ส่งผลให้เด็กในสังคมปัจจุบันเกิดปัญหามากขึ้น การเป็นแม่ยุคใหม่นี้ คงไม่ง่ายนักสำหรับคุณแม่มือใหม่ ดังนั้น เบบี้มายด์ จึงขอชื่นชมคุณแม่ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครรู้จักลูกดีเท่าแม่ และเพื่อเป็นตอกย้ำความสำคัญของการใช้ สัญชาตญาณความเป็นแม่ในการเลี้ยงดูลูก เบบี้มายด์ จึงส่งเสริมพลังความรักของแม่ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด โดย เบบี้มายด์มั่นใจมากว่า การสร้างสรรค์แคมเปญในครั้งนี้ จะเป็นพลังหลักในการปลุกสัญชาตญาณความเป็นแม่ของหญิงไทยยุคใหม่ ให้เรียนรู้และรู้จักลูกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเพิ่มความผูกพันระหว่างคนในครอบครัว และช่วยลดปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นจากความไม่เข้มแข็งของสถาบันครอบครัวดังที่เห็นในปัจจุบัน
“เบบี้มายด์ แบ่งการจัดแคมเปญ “สัญชาตญาณความเป็นแม่ สิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ” ออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรก ที่จะเน้นประชาสัมพันธ์กิจกรรม เพื่อปลุกพลังสัญชาตญาณความเป็นแม่และแสดงถึงพลังมหัศจรรย์จากความรักของแม่สู่ลูก เบบี้มายด์ ผ่านการแถลงข่าวและหนังโฆษณาชุดล่าสุด เพื่อเชิญชวนและเปิดโอกาสให้คนในสังคมสามารถส่งเรื่องราวของการใช้สัญชาตญาณความเป็นแม่ในการเลี้ยงลูก เฟสที่ 2 คือช่วงสะท้อนประสบการณ์ของสัญชาตญาณความเป็นแม่ โดย เบบี้มายด์ เปิดโอกาสให้มี การนำเสนอเรื่องราว ของแม่ที่ได้ทำสิ่งมหัศจรรย์เพื่อลูกด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ หรือได้รับจากผู้เป็นแม่ ผ่านสื่อต่างๆ ทั้ง Mass Media, Online media, cable TV, Magazine เป็นต้น และเฟสที่ 3 คือ การนำเสนอเรื่องราวของแม่ลูกที่น่าประทับใจ ที่ทางเบบี้มายด์คัดมาจากเรื่องจริงที่ส่งเข้ามา ผ่านทางสื่อต่างๆ เพื่อตอกย้ำแนวคิดแคมเปญ โดยนำเสนอทั้งในรูปแบบของ Advertorial ทางนิตยสารต่างๆ และรายการโทรทัศน์ต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เบบี้มายด์ ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่สนับสนุนสถาบันครอบครัวและเด็ก โดยผ่านกิจกรรม เบบี้มายด์ คลับ ที่เปิดโอกาสให้พ่อ แม่และลูกได้ใช้เวลาไปสัมผัสธรรมชาติ พร้อมกับเป็นการเรียนรู้นิสัยของลูกในการเข้าร่วมสังคมกับผู้อื่นด้วย รวมถึงทางเบบี้มายด์เองก็ได้มีการสนับสนุน ให้แม่ได้เลี้ยงลูกอย่างถูกวิธี เช่น โครงการพัฒนา EQ, IQ ให้ลูกน้อย รวมถึงกิจกรรมที่พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ เช่น เบบี้มายด์ คิดส์ ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้สนุกกับการสร้างชิ้นงานศิลปะ นอกจากนั้นทางเบบี้มายด์ยังได้มีกิจกรรมคืนสู่สังคม ด้วยการสานฝันของลูกจากแม่ โดยเบบี้มายด์ จะสนับสนุนฝันของลูกคุณให้เป็นจริง เพราะเราเชื่อว่าพลังความรักของแม่นั้นเป็นพลังที่บริสุทธิ์ และมหัศจรรย์ที่สุด” คุณต้องหทัย กุวานนท์ กล่าว
เกี่ยวกับมุมมองต่อภาพรวมธุรกิจผลิตภัณฑ์เด็กในปี 2554 นั้น คุณต้องหทัย กุวานนท์ แสดงความคิดเห็นในส่วนดังกล่าวว่า “ปัจจุบันแม้พ่อและแม่จะมีเวลาน้อย แต่ด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ทำให้พ่อแม่สามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันง่ายขึ้น บวกกับประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด พ่อแม่จึงใส่ใจในทุกรายละเอียดของลูกมากขึ้น ดังนั้นผู้ผลิตสินค้าเด็กในปัจจุบันจึงต้องให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกวัตถุดิบ ที่ต้องไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเด็ก นั่นหมายถึงเป็นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ รวมถึงกระบวนการผลิต หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์ด้วย ดังนั้น แนวทางการดำเนินธุรกิจของ เบบี้มายด์ ในปีนี้ เราจึงสานต่อในการให้ความสำคัญกับสินค้าในกลุ่มเด็กมากขึ้น โดยจะทำการขยายประเภทสินค้าทั้งกลุ่มสบู่เหลวและกลุ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและอำนวยกับ ความสะดวกแก่พ่อแม่ยุคใหม่ในปัจจุบัน พร้อมกับปรับเปลี่ยน Format และบรรจุภัณฑ์ให้ง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนั้น ยังคงและมีการขยายสินค้าออกไปในกลุ่มใหม่ เช่น กลุ่ม Baby Cleanser and Household อย่างไรก็ตามทางเบบี้มายด์ยังคงคัดสรรควัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ และได้รับการรองรับว่าไม่ก่อให้เกิด การระคายเคืองต่อผู้บริโภคด้วย”
นอกจากนี้ทางเบบี้มายด์ได้คืนสิ่งดีๆ กลับสู่สังคมโดยในปีนี้ทางเบบี้มายด์จะมีโครงการ เบบี้มายด์สานฝันพลังรักจากแม่สู่ลูก โดยร่วมมือกับนิตยสารแม่และเด็กชั้นนำของเมืองไทย โดยเปิดโอกาสให้แม่ทั่วประเทศร่วมส่งความฝันของลูกๆ มาที่ เบบี้มายด์ เพื่อให้เบบี้มายด์สนับสนุนพลังฝันของลูกที่ได้รับคัดเลือก ให้กลายเป็นจริง ซึ่งแม่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝันของลูกเป็นจริง เพราะเราเชื่อว่าแม่ทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก และนอกจากนี้ ทางเบบี้มายด์ยังร่วมกับนิตยสารและโรงพยาบาลต่างๆ ในการมอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของเบบี้มายด์ให้กับคุณแม่ การสนับสนุนการจัดสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดู อบรมลูกโดยใช้สัญชาตญาณความเป็นแม่ รวมถึงการมอบผลิตภัณฑ์ให้กับเด็กๆ ที่ด้อยโอกาสตามโรงเรียน ในต่างจังหวัดตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ ภาพยนตร์โฆษณาชุด “สัญชาตญาณแม่” นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ต้องการสะท้อนให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจนและพัฒนาจากปรัชญาที่มีรากฐานมากจากความเข้าใจในธรรมชาติของทารก “Natural N’ Mild” หรือ "ธรรมชาติ บริสุทธิ์ อ่อนโยน ปลอดภัย” ก็ยังเป็นสิ่งที่ เบบี้มายด์ ยึดมั่นไม่เคยเปลี่ยนแปลง พร้อมกับเบบี้มายด์ยังคงจะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเราตลอด 20 กว่าปี โดยเราได้ทำการศึกษาวิจัยในเชิงลึก จาก Consumer insight ถึงความต้องการอย่างแท้จริงของแม่และลูกน้อย ทำให้เราค้นพบว่า ความเข้าใจในธรรมชาติ คือ สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติมอบไว้ให้ และด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ จะเลือกสรรสิ่งที่ดี และปลอดภัยต่อลูกน้อยเสมอ จากความเข้าใจนี้เองทำให้ เบบี้มายด์ ได้นำเสนออีกหนึ่งมุมมอง ของความมหัศจรรย์ จากธรรมชาติ และสัญชาตญาณความเป็นแม่บนแง่มุมใหม่ โดยมีจุดยืนว่า เบบี้มายด์ คือ Naturally Brave Mom แม่ที่กล้าหาญในจุดที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับลูก ท่ามกลางความรู้ที่ศึกษามาจากหลายตำราที่ไม่เหมือนกัน แต่แม่กล้าที่จะตัดสินใจตามสัญชาตญาณ เพราะ ไม่มีใครรู้จักลูกดีเท่าแม่ สำหรับกลยุทธ์ในด้านสินค้า เราสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าด้วยปรัชญาใน การคิดค้นผลิตภัณฑ์ความเข้าใจธรรมชาติของผิว ด้วยวิธีการและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพราะแบรนด์ เบบี้มายด์ เชื่อว่าธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก เช่นเดียวกับที่เราเชื่อมั่นในสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่ธรรมชาติมอบให้คุณแม่ทุกๆ คน เบบี้มายด์ จึงขอชื่นชมและอยู่เคียงข้างการตัดสินใจที่กล้าหาญของคุณแม่ในการดูแลลูก ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ สร้างมาจากเรื่องจริงของคุณแม่ท่านหนึ่ง ผู้ให้กำเนิดลูกแฝด 2 คน แต่ลูกของเธอคนหนึ่งเกิดหยุดหายใจ แม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ ในนาทีที่ทุกคนสิ้นหวัง เธอกลับโอบกอดลูกน้อยอย่างไม่ยอมแพ้ จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง และในที่สุดทารกน้อยก็ฟื้นกลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้งในอ้อมอกของเธอนั่นเอง ดุจดั่งปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะ ความอบอุ่นจากร่างกายแม่ที่ช่วยกระตุ้นหัวใจของลูก และที่สำคัญที่สุด คือการตัดสินใจเหนือเหตุผลใดๆ จากสัญชาตญาณความเป็นแม่ ซึ่งคงไม่ผิดหากจะกล่าวว่า “สัญชาตญาณความเป็นแม่ คือสิ่งมหัศจรรย์ จากธรรมชาติ” ทั้งหมดนี้ เพื่อตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ว่า ธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุดและแคมเปญสัญชาตญาณความเป็นแม่ เป็นอีกหนึ่งแคมเปญเพื่อบอกความเชื่อและจุดยืนของเราในเรื่อง “จากธรรมชาติ...เพื่อทารก”
“เบบี้มายด์ เชื่อมั่นว่า จากการรุกหนักเพื่อตอกย้ำถึงการเป็นแบรนด์จากธรรมชาติ พร้อมกระตุ้นและ ปลุกกระแสแนวทางการเลือกสรรแก่แม่ในปีนี้ เบบี้บายด์น่าจะสร้างอัตราเติบโตของยอดขายในปีนี้ได้ประมาณ 15 -20% และยังสามารถครองความเป็นหนึ่งได้อย่างต่อเนื่องต่อไป” คุณต้องหทัย กุวานนท์ กล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์:
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ จาจิญา เพ็งพันธ์ และชวิศรา สัมฤทธิ์นรพงศ์
02-951-9119