กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--เวิรฟ
อัลติคอร์ อิงค์ บริษัทแม่แอมเวย์ แถลงความสำเร็จทั่วโลกปี 2553 ด้วยยอดธุรกิจกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้านแอมเวย์ประเทศไทยยังคงครองแชมป์ขายตรงไทยด้วยยอดขาย 14,370 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนปี 2554 มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจแอมเวย์ให้เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เน้นสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพของนักธุรกิจแอมเวย์โดยจัดกิจกรรมให้ตรงความต้องการของแต่ละกลุ่ม (Segmentation) ประเดิมด้วยการจัดประชุมและแอมเวย์เอ็กซ์โประดับชาติปีที่ 23 ภายใต้แนวคิด “แอมเวย์...หุ้นส่วนอันดับหนึ่งของคุณ” ให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ด้วยงบกว่า 60 ล้านบาท จัดงาน 2 วันคือ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ ขยายพื้นที่ใช้อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครอบคลุมทั้ง 3 ฮอลล์ คาดมีผู้สนใจเข้าชมงานร่วม 100,000 คน
มร.จิม เพย์น รองประธานบริหาร แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น และอดีตกรรมการผู้จัดการคนแรกของบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อัลติคอร์ อิงค์ บริษัทแม่ของแอมเวย์ประสบความสำเร็จในปี 2553 ด้วยยอดธุรกิจกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ย้ำความเป็นแชมป์ในธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นของโลก ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากความทุ่มเทของนักธุรกิจแอมเวย์กว่า 3 ล้านคน และความเป็นธุรกิจขายตรงขนานแท้ที่มีประวัติยาวนานกว่า 50 ปี พร้อมทีมพนักงานมากกว่า 13,000 คนที่สนับสนุนองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ในกว่า 80 ประเทศและดินแดนต่างๆทั่วโลก เพื่อให้โอกาสผู้คนได้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ สำหรับแอมเวย์ประเทศไทยนับเป็นสาขาที่ประสบความสำเร็จประเทศหนึ่ง และเป็นความภูมิใจของอัลติคอร์ โดยมียอดธุรกิจติดอันดับ 1 ใน 10 ของแอมเวย์ทั่วโลก”
“สำหรับกลยุทธ์ปี 2554 อัลติคอร์ อิงค์ เน้นการเติบโตโดยนำนวัตกรรมในทุกๆ ด้านมาใช้ ได้แก่ ด้านประสบการณ์สำหรับนักธุรกิจแอมเวย์และลูกค้า ด้านการบริหารผลิตภัณฑ์และแบรนด์ และด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจ เพื่อย้ำความเป็นผู้นำในเรื่องของโอกาสทางธุรกิจขายตรง สนับสนุนการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง ขณะเดียวกันลูกค้ายังได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและคุณภาพสูงเพื่อสะท้อนความเป็นแบรนด์ของแอมเวย์ ภายใต้การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ” มร.จิม กล่าวในที่สุด
นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอมเวย์ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง สามารถสร้างสถิติยอดขายใหม่ๆ ในวงการขายตรงไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปิดยอดขายที่ 14,370 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักมาจากความทุ่มเทและความแข็งแกร่งของนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อสร้างแบรนด์ “โอกาสทางธุรกิจแอมเวย์” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ปีนี้บริษัทนำกลยุทธ์มุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้า (Consumer Focus) มาใช้ในการสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้มีศักยภาพในทุกๆ ด้าน โดยการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานให้ตรงตามความต้องการของแต่ละกลุ่มมากขึ้น (Segmentation) พร้อมเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน”
“ปีที่ผ่านมา บริษัทมีนักธุรกิจแอมเวย์ที่ดำรงคุณสมบัติสูงขึ้นจากปี 2552 เป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ โดยมีนักธุรกิจแอมเวย์ระดับผู้นำองค์กรเพิ่มมากขึ้น 15% สามารถสร้างให้อาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงได้รวดเร็วขึ้น สำหรับปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นการสนับสนุนองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์โดยจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม อาทิ การจัดประชุมโอกาสทางธุรกิจรูปแบบใหม่สำหรับกลุ่ม เจเนอเรชั่นต่างๆ การให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเพื่อให้บริหารธุรกิจอย่างมืออาชีพ ได้แก่ ข้อมูลยอดธุรกิจ อัตราการสปอนเซอร์นักธุรกิจแอมเวย์รายใหม่ เป็นต้น รวมทั้งการทำโปรแกรมการคำนวณยอดธุรกิจ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักธุรกิจแอมเวย์รายใหม่ๆ สามารถตั้งเป้าหมายธุรกิจได้อย่างง่ายดายและชัดเจนขึ้น”
“บริษัทประเดิมกิจกรรมแรกของปีนี้ ด้วยการทุ่มงบกว่า 60 ล้านบาท จัดงานแสดงสินค้าต้นแบบในธุรกิจขายตรง “การประชุมและแอมเวย์เอ็กซ์โประดับชาติ 2554” โดยขยายพื้นที่การจัดงานในอาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครอบคลุมทั้ง 3 ฮอลล์ และจัดขึ้นเพียง 2 วันคือ วันที่ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะมีเครือข่ายนักธุรกิจแอมเวย์และผู้สนใจจากทั่วประเทศเข้าชมงานร่วม 100,000 คน สำหรับปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 23 ภายใต้แนวคิด “แอมเวย์...หุ้นส่วนอันดับหนึ่งของคุณ” เพื่อเน้นการสนับสนุนอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ในฐานะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจคนสำคัญของบริษัท พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกในแผนธุรกิจแอมเวย์และเทคนิคความสำเร็จ ข้อมูลสินค้าและการสาธิตคุณภาพของสินค้าทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการปราศรัยรับเชิญโดย มร.คาโอรุ นากาจิมา นักธุรกิจแอมเวย์ระดับมงกุฎทูต 40 สายงานจากแอมเวย์ญี่ปุ่น ผู้มียอดธุรกิจในองค์กรประมาณ 40% ของยอดขายแอมเวย์ญี่ปุ่นหรือ 12% ของยอดขายแอมเวย์ทั่วโลก เพื่อมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ประเทศไทย” นายปรีชา กล่าว