กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--สหมงคลฟิล์ม
Q: แนะนำตัวกันหน่อย
M: สวัสดีค่ะ มิลค์ ภาวิณี วิริยะชัยกิจ รับบทเป็น เกษ ในภาพยนตร์เรื่อง ฮักนะ’สารคาม
Q: ผลงานที่ผ่านมีอะไรบ้าง
M: ผลงานที่ผ่านมาก็เคยประกวด SPY Girl ปี 2008 ได้ตำแหน่งSPY BRAND AMBASSADORS ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมาก็เรื่อง ฝันโคตรโคตร ของพี่พิง ลำพระเพลิง และภาพยนตร์เรื่อง กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ของพี่กังฟู นิติวัฒน์ค่ะ ผลงานทางด้านละคร ก็มีซิทคอมรายการระเบิดเถิดเทิง แล้วก็เรื่องรักล้นๆ 9 คน 4 คู่ค่ะ
Q: เข้ามาร่วมงานในโปรเจ็คต์ครั้งนี้ได้อย่างไร
M: เรื่องนี้ต้องการนักแสดงที่พูดอีสานได้ เพราะว่าทั้งเรื่องจะพูดแต่ภาษาอีสาน ทางทีมงานก็จะต้องหานักแสดงว่ามีใครบ้างที่พูดได้ แล้วเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่พูดได้ก็เลยได้รับเลือกมาค่ะ ก็รู้สึกภูมิใจค่ะที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับโปรเจ็คต์ครั้งนี้ และภาพยนตร์เรื่องฮักนะสารคาม ยังเป็นโปรเจ็คต์ของทางสถาบันวิจัยส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคามที่ได้รับทุนจากไทยเข้มแข็งของกระทรวงวัฒนธรรมในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยค่ะ
Q: แล้วเรื่องนี้ รับบทเป็นใคร คาแรคเตอร์เป็นอย่างไร
M: ในเรื่องนี้ มิลค์รับบทเป็น เกษ โดยคาแรคเตอร์ของเกษ จะเป็นนักกีฬาเทควันโด้ตัวแทนของมหา’ลัยไปแข่งกีฬาระดับประเทศ จะเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเทในสิ่งที่ตัวเองทำสุดๆ ไม่ได้เป็นสาวหวานเวลามีคนมาจีบก็จะดุ ไม่ชอบไม่สนใจ จนเมื่อ เทพ (ธันวา สุริยจักร) พระเอกของเรื่องมาตามจีบ ด้วยความที่เกษเป็นคนอีสานพูดกลางไม่ได้ก็จะเขินวิ่งหนีตลอด
Q: เล่าเรื่องย่อ ฮักนะ’สารคาม สักนิดนึง
M: เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่จังหวัดมหาสารคาม เป็นเรื่องราวความรักวัยรุ่นวัยเรียน โดยจะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยแล้วก็ช่วงมัธยมในส่วนของมิลค์เนี่ยจะเป็นช่วงมหาวิทยาลัย ในเรื่องเจ๊อุบล (ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ) จะเป็นนักศึกษาที่ไม่ยอมจบสักที และจะทำงานพิเศษเป็นหมอดูอยู่ที่ตลาด เกษก็จะไปดูดวงกับเจ๊อุบล และทำให้ได้เจอกับพระเอกคือเทพ ครั้งแรก ทำให้เทพตกหลุมรักและพยามตามจีบเกษ แต่เกษก็จะเขินวิ่งหนีตลอด สุดท้ายจะลงเอยยังไงต้องติดตามชมกันนะคะ
Q: ในเรื่องนี้ต้องแสดงเป็นนักกีฬาสาวเทควันโด ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
M: ต้องบอกว่ามิลค์ไม่เป็นเลยจริงๆ เทควันโดเนี่ย (หัวเราะ) ตอนถ่ายก็จะเป็นสนามแข่งเทควันโดจริง แล้วมีอาจารย์ทางมหาวิทยาลัยมาช่วยสอนเบสิกเบื้องต้นให้ว่าต้องเตะอย่างนี้นะ ต้องก้าวขาอย่างนี้นะ และก็มีพี่ผู้ช่วยผู้กำกับเขาเคยเรียนเทควันโด ระดับสายดำ พี่เขาก็ช่วยสอนด้วยเช่นกันค่ะพอเริ่มถ่ายเตะไปประมาณ 15 นาที ขาก็จะเป็นตะคิวแล้ว (หัวเราะ) และก็เตะโดนคนที่แสดงคู่กันแต่เตะโดนตรงที่ไม่มีเกราะป้องกันตลอดเลย ถ่ายเสร็จก้ต้องเข้าไปขอโทษเขา เราไม่ได้ตั้งใจนะแต่เราเตะไม่เป็นจริงๆ พี่กอล์ฟก็อยากให้ออกมาดูสมจริงดูเหมือนว่าเราเป็นนักกีฬาจริงๆ ก็หลายเทคหน่อย เตะกันเหงื่อแตกและก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ
Q: แตกต่างจากเรื่องอื่นที่เคยแสดงมาไหม
M: แตกต่างอย่างชัดเจนเลยคือเรื่องนี้จะพูดภาษาอีสานทั้งเรื่องค่ะ เป็นเรื่องชีวิตวัยเรียนช่วงมหาวิทยาลัยก็ใกล้กับตัวเราเอง แล้วมีเรื่องความรักกุ๊กกิ๊กแบบแอบชอบแต่ไม่กล้าเขินอะไรประมาณนี้ค่ะ
Q: ฉากรักกุ๊กกิ๊กจะเป็นฟิวส์ประมาณไหน แล้วเบื้องหลังการถ่ายทำเป็นอย่างไร
M: ฉากกุ๊กกิ๊กเนี่ย แบบว่าเขินพระเอก เขินที่เราพูดภาษาอีสานแต่พระเอกพูดภาษากลางก็เลยวิ่งหนี แอบตามต้นไม้เหมือนหนังอินเดียเลย (หัวเราะ) แล้วจะมีฉากบอกรักกลางแม่น้ำคือจะนั่งอยู่ในเรือคุยกันจู๋จี๋กันแต่น้ำไหลเชี่ยวมาก ซึ่งจะมีทีมงานลงไปอยู่ใต้เรือแอบอยู่คอยจับเรือไว้ไม่ให้ไหลไปตามน้ำ น้ำก็จะเย็นๆ ทีมงานโดนปลาตอดขาอีก (หัวเราะ) และก็ต้องแช่อยู่แบบนั้นเพื่อรอแสงพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ 6 โมงเช้าแสงก็ยังไม่ขึ้นสักทีจนจะเที่ยงวันแล้ว เพราะอากาศวันนั้นจะสลัวๆ เป็นช่วงหน้าฝนด้วยค่ะ ทานข้าวก็ทานกันบนเรือเลยอะไรอย่างเนี่ยค่ะ เป็นฉากบอกรักที่ลำบากและต้องอาศัยความอดทนทั้งทีมงานและนักแสดงกันเลยทีเดียว
Q: การทำงานร่วมกับพี่ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
M: สำหรับพี่ตุ๊กกี้ เราเคยร่วมงานกันมาแล้วจากภาพยนตร์เรื่องกะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว พอได้มาร่วมงานกันอีกครั้งก็สนุกสนานเฮฮาดีค่ะเพราะเราเริ่มคุ้นเคยกันแล้ว เวลาอยู่ในกองถ่ายมิลค์จะชอบชวนพี่ตุ๊กกี้กินส้มตำปลาร้ากันตลอดเลย (หัวเราะ) ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ น้องเกรทก็สนิทกัน เพราะน้องเกรทเรียนที่ ม.ขอนแก่นที่เดียวกันด้วยก็จะเจอกันบ่อย หนูจ๋าเราก็เป็นคนบ้านเดียวกันคนขอนแก่นเหมือนกันค่ะ ส่วนน้องเต้ น้องอ้วน ก็จะซนๆ ตามประสาเด็กผู้ชายแต่มีความตั้งใจทำงานดีค่ะ
Q: ครั้งแรกได้ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มลูกครึ่งจีน-เวียดนาม “ธันวา” ทำงานร่วมกันเป็นอย่างไรบ้าง
M: สำหรับธันวาก็ร่วมงานกันเป็นเรื่องแรก วันแรกที่เข้าฉากด้วยกันจะเขิน เพราะยังไม่รู้จักกันเลยแต่ต้องเข้าฉากรักกันซะแล้ว สุดท้ายผ่านไปได้ด้วยดี ในเรื่องธันวาจะพูดกลางแต่ตัวจริงเขาก็พูดอีสานนะเพราะว่าเขาโตที่ประเทศลาว ในกองก็เลยพูดอีสานกันสนุกเลย ธันวาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากค่ะ (ยิ้ม)
Q: เล่าถึงการทำงานร่วมกับผู้กำกับคนเก่งบ้าง กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน เป็นอย่างไรบ้าง
M: ร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ผู้กำกับ ครั้งแรกรู้สึกว่าพี่กอล์ฟใจดีมาก (หัวเราะ) โชคดีที่มิลค์เจอแต่ผู้กำกับใจดีอีกแล้ว พี่กอล์ฟเป็นคนที่มีความเป็นกันเองมากเหมือนไม่ใช่ผู้กำกับ แต่จะเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่า คือเขาไม่ได้ใช้แรงกดดันเวลาที่เราแสดงยังไม่ได้หรือว่ายังไม่ใช่ในแบบที่เขาต้องการ พี่กอล์ฟก็จะบอกว่าเออเนี่ยมันยังดูไม่รักกันจริงๆ เลย พี่ขอรักกันมากกว่านี้หน่อยสิ จะคอยให้คำแนะนำว่าต้องอย่างนี้ดีกว่าไหมอะไรอย่างเนี่ยค่ะ
Q: เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่อง “ฮักนะ’สารคาม”
M: เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้จะอยู่ที่ความน่ารักของภาษาอีสาน และถ้าได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ฟังภาษาอีสานที่หลากหลายสำเนียงมากอย่างพี่ตุ๊กกี้ ก็จะเป็นสำเนียงอุดรธานี ของมิลค์กับหนูจ๋าก็จะสำเนียงขอนแก่น น้องเกรทสำเนียงชัยภูมิ หลากหลายสำเนียงนับว่าเป็นเสน่ห์น่ารัก และยังมีเรื่องศิลปวัฒนธรรมอีสานในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
Q: ฝากผลงานภาพยนตร์ “ฮักนะ’สารคาม”
M: มิลค์ก็อยากให้ไปชมภาพยนตร์เรื่อง ฮักนะ’สารคามกันเยอะๆ นะคะ นักแสดงเรื่องนี้มีหัวใจเป็นอีสานทั้งนั้นเลยค่ะ และยังได้เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมอีสานให้กับหลายๆ คนที่ยังไม่เคยเห็น หรือได้ชมภาพยนตร์สำเนียงอีสาน รับรองว่าสนุกดูรู้เรื่องแน่นอนค่ะ....ก็อยากจะสิฝากไปเบิ่งกันหลายๆ เด้อค่ะ วันที่ 10 มีนาคมนี้ ฮักนะ’สารคาม