กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--KTAM
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย รัสเซีย ฟิกซ์อินคัม4 ( KTRF4 ) ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2554 อายุโครงการ 2 ปี 3 เดือน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยกิจการในรัสเซียไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ตราสารที่จะลงทุนเป็นตราสารประเภท Loan Participation Notes (LPNs) ที่ออกโดยสถาบันการเงินและบริษัทกลุ่มพลังงานชั้นนำของรัสเซีย ซึ่งกิจการเหล่านี้ถือหุ้นส่วนใหญ่โดยรัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐของประเทศรัสเซีย เช่น Russian Agricultural Bank ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรของรัสเซีย , SberBank ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับหนึ่ง , VTB Bank ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 2 , Transneft กิจการผู้ดำเนินธุรกิจท่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดและ GazProm กิจการผู้ผลิตก๊าซรายใหญ่ที่สุด เป็นต้น ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 3.40% ต่อปี ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย และ เงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยกองทุนจะรับซื้อคืนอัตโนมัติทุก 3 เดือน และเมื่อครบอายุโครงการจะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ อยู่ในช่วงปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อที่เริ่มแสดงสัญญาณเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ จึงคาดการณ์ว่ากลุ่มประชาคมยุโรป และสหรัฐอเมริกา อาจจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเร็วขึ้นกว่าที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้แต่เดิม และส่งผลให้กองทุนรวมระหว่างประเทศมีการปรับลดพอร์ตการลงทุนไปสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยกิจการในรัสเซีย ตลาดยังมีความต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะยังให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่เป็น Investment Grade ระดับเดียวกัน จึงทำให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้รัสเซียปรับลดลง แต่การลดลงดังกล่าวถูกชดเชยจากการปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยสวอประหว่างสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และบาท จึงทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนหลังปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนยังอยู่ในระดับทรงตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย เพิ่มค่า (KTP) เสนอขายถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศ ในสัดส่วน 56% เงินฝากของธนาคาร Barclays (UAE) และธนาคาร HSBC Middle East Ltd. 44% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.25% ต่อปี