กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
Fascinating Style… ดีไซน์ที่ปลุกทุกอณูความรู้สึก ให้ขับเคลื่อนไปกับความเร้าใจมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รุ่น GT มาพร้อมดีไซน์ ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าใหม่ ลงตัวกับไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์แบบ Bi-Xenon ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน แผงครอบใต้กันชนหลัง รวมไปถึงล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบ Dark Gray พร้อมเพิ่มความเท่ห์ ให้กับรุ่น GLS Ltd. ด้วยแผงครอบช่องดักลมกันชนหน้า คิ้วตกแต่งชายฝากระโปรงท้ายแบบโครเมียม ที่เปิดประตูด้านนอกแบบโครเมียม และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วทั้งในรุ่น GLS Ltd. และรุ่น GLX
สำหรับการตกแต่งภายในของรุ่น GT จะเป็นโทนสีดำ คอนโซลหน้าแบบ Geometric ในขณะที่รุ่น GLS Ltd. มีให้เลือกทั้งโทนสีดำ พร้อมคอนโซลหน้าแบบ Geometric และ โทน สีเบจ พร้อมคอนโซลลายไม้แบบ Dark Brown Wood ส่วนรุ่น GLS มาพร้อมการตกแต่งภายในโทนสีเบจ พร้อมคอนโซลลายไม้แบบ Bright Brown Wood ทั้งนี้ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมมือจับประตูด้านในแบบโครเมียม ในขณะที่รุ่น GLS Ltd. และรุ่น GT มีการติดตั้งชุดขอบและวงแหวนครอบสวิตซ์ควบคุมอุณหภูมิแบบโครเมียม เพิ่มฝาปิดช่องเก็บของด้านหน้า รวมไปถึงที่วางแก้วน้ำพร้อมฝาปิดบริเวณคอนโซลกลางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Fascinating Comfortable ...
ตอบสนองความต้องการที่ซ่อนอยู่ภายใน ตอบทุกการใช้งานอย่างชาญฉลาด
สำหรับมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ใหม่ มาพร้อมความโดดเด่นของนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่นำสมัยของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตั้ง ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ที่ช่วยให้สามารถล็อกหรือปลดล็อก ประตู และฝากระโปรงท้าย รวมไปถึงสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม “อิมโมบิไลเซอร์” โดยจะติดตั้งมาในรุ่น GLS Ltd เป็นต้นไป
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ทุกรุ่นมาพร้อมมาตรวัดเรืองแสงใหม่แบบ Hi-Contrast ที่ช่วยให้ง่ายต่อการอ่าน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์แบบ Twin type LCD Digital แสดงผลข้อมูลได้หลายแบบ พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยกระจกไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ด้านคนขับ พร้อมระบบ Safety รวมไปถึงกระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า รวมไปถึงระบบพับเก็บกระจกมองข้างอัตโนมัติเมื่อกดล็อกรถ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อกรถ (Welcome lighting) ซึ่งจะทำงานเมื่อกดปุ่มปลดล็อกบนกุญแจรีโมทคอนโทรล ไฟหรี่และไฟท้ายจะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที และ ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Coming Home lighting) ซึ่งจะทำงานเมื่อหมุนสวิตซ์ชุดไฟหน้าไปที่ตำแหน่ง Off แล้วบิดสวิตซ์กุญแจไปที่ตำแหน่ง Lock ภายใน 60 วินาที ก่อนดึงก้านไฟเลี้ยวเข้าหาตัวไฟหน้าใหญ่ตำแหน่งไฟต่ำจะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในขณะที่รุ่น GLS Ltd. และรุ่น GT มาพร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น เทคโนโลยีที่ตอบสนองทุกการเดินทางโดยสามารถเลือกปรับการใช้งานได้หลากหลายโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เพื่อควบคุมความเร็วให้คงที่เพิ่มความสะดวกสบายและลดอาการเมื่อยล้าจากการขับขี่รถในระยะทางไกลๆ นอกจากนี้ ในรุ่น GT ยังคงมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ
เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ยิ่งขึ้นด้วยจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางอัตโนมัติ และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สายที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น GT พร้อมชุดอุปกรณ์ต่อพ่วง USB ในทุกรุ่น
Fascinating Performance and Safety…
สมรรถนะแห่งความเร้าใจกับความปลอดภัยเหนือระดับ
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ใหม่ ให้สมรรถนะที่เหนือชั้นจากเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร FFV และ 2.0 ลิตร DOHC MIVEC ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVT อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sport Mode ที่ให้สมรรถนะพร้อมการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น 1.8 ลิตร ที่รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทุกประเภทตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี 85 ในขณะที่รุ่น 2.0 ลิตร รองรับได้ถึงแก๊สโซฮอล์ อี 20
นอกจากนี้ยังให้ความปลอดภัยจากโครงสร้างที่แข็งแกร่งพร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เป็นเยี่ยม รวมไปถึงระบบช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มีส่วนช่วยทำให้การทรงตัวและการตอบสนองของรถ รวมไปถึงความปลอดภัยที่เหนือกว่า การปรับปรุงความปลอดภัยจากการรับแรงกระแทก รวมทั้งตัวถังนิรภัย RISE Body และระบบถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถือเป็นระบบที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและลดผลกระทบเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น